นายพงศานติ์ คล่องวัฒนกิจ ประธานผู้บริหารฝ่ายการเงิน บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) คาดว่า ยอดขายในปี 61 จะเติบโตราว 15-20% จากปีก่อน จากในช่วงต้นปีตั้งเป้าหมายไว้ที่ระดับ 25% เนื่องจากไตรมาส 1/61 ยอดขายอ่อนตัวลง ขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังอาจเติบโตได้ไม่มาก แต่คาดว่าบริษัทจะยังเติบโตได้ดีกว่าภาพรวมตลาด
สำหรับแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในครึ่งหลังปี 61 จะฟื้นตัวดีและสามารถเป็นบวกได้ จากภาพรวมครึ่งแรกของปีตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปรับตัวลงเพียง 2% แม้ไตรมาส 1/61 ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากราว 3-4% ซึ่งคาดว่าการบริโภคในประเทศจะมีทิศทางการปรับตัวที่ดีขึ้น
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์จากในประเทศ 52% และส่งออกต่างประเทศ 48% ขณะที่การขยายธุรกิจในต่างประเทศมีการเติบโตที่ดี ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามามากในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา ซึ่งในครึ่งแรกปี 61 กลุ่ม CLMV เติบโตเฉลี่ยมากกว่า 50% และคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี
ส่วนในประเทศจีน บริษัทมองว่าจะสามารถทำยอดขายปี 61 ได้ต่ำกว่าคาด เนื่องจากปีก่อนบริษัทประเมินตลาดผิดคาด ทำให้มีสินค้าบางส่วนตกค้างมาถึงช่วงต้นปีนี้ ส่งผลให้มียอดสั่งซื้อสินค้าต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ดีบริษัทได้เร่งระบายสินค้าคงค้างใกล้หมดแล้ว โดยคาดว่าทั้งปีจะสามารถทำยอดขายได้กว่า 150-200 ล้านกระป๋อง ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดว่าจะทำได้ 300 ล้านกระป๋อง
ขณะเดียวกันบริษัทมองว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในจีนมีระดับการแข่งขันต่ำกว่าในไทย และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยบริษัทจะเร่งขยายตลาดตามหัวเมือง และเพิ่มจำนวนพนักงานจากปัจจุบันมีพนักงานทำงานเต็มเวลาจำนวน 1.5 พันคน อยู่ในระดับต่ำกว่าคู่แข่งที่มีราว 4.5 หมื่นคน
ส่วนในประเทศอังกฤษ บริษัทมองว่าไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีมีกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มชูกำลังให้เยาวชนต่ำกว่าอายุ 16 ปี เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยทำงานอายุ 18-35 ปี และบริษัทก็มีการทำการตลาดผ่านสื่อต่าง ๆ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายอายุตั้งแต่ 18-50 ปี จึงมองว่าไม่กระทบต่อยอดขายของบริษัท
นายพงศานติ์ มองว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศอังกฤษมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเห็นได้จากการที่บริษัทออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลังผสมกลิ่นผลไม้ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีและสามารถทำยอดขายได้ค่อนข้างสูง ส่วนแบบดั้งเดิมและสูตรไม่มีน้ำตาลมียอดขายอยู่ในระดับปกติ
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายส่งออกไปยังประเทศอังกฤษและประเทศใกล้เคียงผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศอังกฤษปีนี้ 20 ล้านกระป๋อง ส่วนในอังกฤษคาดว่าจะทำยอดขายได้ราว 14 ล้านกระป๋อง
นายพงศานติ์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าว่าในปี 63 จะมีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในไทยขึ้นเป็นอันดับ 1 โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเฉลี่ยปีละ 1-2% จากปัจจุบันอยู่ที่ 24% ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีเครือข่าย "สาวบาวแดง" ขนาดใหญ่ที่สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายรากหญ้าได้ทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น