WIN รอทิศทางธุรกิจใหม่ต้นปี 51 คาดผสมประสบการณ์เดินเรือ-สายการบิน-รถไฟ

          บมจ.วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค(WIN)เผยซีอีโอคนใหม่เตรียมกำหนดแผนงานและทิศทางธุรกิจหลังจากเข้าเริ่มงานต้นม.ค.51 ภายใต้โครงสร้างกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ที่เข้ามาแทนกลุ่มวงศ์สวัสดิ์ โดยนำประสบการณ์และความชำนาญด้านขนส่งทางเรือ-สายการบิน เสริมการขนส่งทางรถไฟ เดินหน้าธุรกิจโลจิสติกส์ พร้อมพัฒนาธุรกิจให้เช่าพื้นที่ฟรีโซน
          นายนพพงษ์ อุรัจนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ WIN เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ทิศทางธุรกิจหลังจากปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ยังคงยึดทางด้านโลจิสติกส์เป็นหลัก ทั้งในส่วนของธุรกิจที่ให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟเส้นทางนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด-ท่าเรือแหลมฉบัง และการให้เช่าพื้นที่ปลอดอากร(ฟรีโซน)เหมือนเดิม 
          ผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ได้ส่งผู้บริหารเข้ามาปรับปรุงการบริหารงาน โดยแต่งตั้งนายเทียนชัย ดาวรรณวงศ์ เป็นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารของบริษัทสายการเดินเรือชั้นนำของโลก จะมีผลเริ่มทำงานวันที่ 1 ม.ค.51 คาดว่าจะนำประสบการณ์มาผสมผสานกับธุรกิจที่ WIN ดำเนินการเฉพาะธุรกิจขนส่งรถไฟจากหน้าโรงงานไปยังท่าเรือ 
          "เวลานั้นคิดว่าคนที่ตอบนโยบายหรือทิศทางธุรกิจได้ดีที่สุดน่าจะเป็นซีอีโอคนใหม่ คือคุณเทียนชัย ซึ่งจะประชุมนัดแรกในเดือนม.ค.51" นายนพพงษ์ กล่าว
          ทั้งนี้ นายเทียนชัยมีประสบการณ์การทำธุรกิจสายการเดินเรือ คงจะพิจารณาว่าธุรกิจขนส่งสินค้าทางรถไฟที่มาบตาพุดจะสามารถให้บริการอะไรเพิ่มเติมให้กับลูกค้าที่มาบตาพุดได้เป็นหลัก เพราะฉะนั้นธุรกิจของเขาก็จะไปเพิ่มมูลค่าให้กับ WIN และการที่จะไปเสนอบริการให้กับลูกค้าน่าจะไปกันได้ 
          ขณะที่หนึ่งในกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ คือ นายจักร จามิกรณ์ มีความถนัดในธุรกิจด้านสายการบิน ก็เชื่อว่าจะนำมาเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการพัฒนาธุรกิจของบริษัทด้วย ส่วนกลุ่มสามประสิทธิ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่อีกกลุ่มหนึ่ง มีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์และสนใจ WIN ในส่วนของพื้นที่ฟรีโซน เพราะมองว่ายังสามารถขยายธุรกิจในด้านนี้ได้
          "ตอนนี้ WIN มีธุรกิจ 2 ประเภทคืออสังหาริมทรัพย์ให้เช่าพื้นที่ในเขตปลอดอากรตรงนี้กลุ่มสามประสิทธิ์สนใจ ส่วนอีกธุรกิจหนึ่งทางด้านโลจิสติกส์ก็คือทางคุณจักร ซึ่งมีธุรกิจทางด้านแอร์อันดามัน จึงต้องรอ CEO คนใหม่เข้ามากำหนดทิศทาง แต่ในส่วนกลุ่มสามประสิทธิ์ยังไม่ส่งผู้บริหารเข้ามา"นายนพพงษ์ กล่าว
          ส่วนจะให้บริการเป็นแพ็คเก็จหรือไม่คงเป็นไปได้ โดยจะส่งบริการตั้งแต่การขนส่งจากหน้าโรงงานไปยังท่าเรือและจากท่าเรือก็ส่งลงเรือไปด้วยน่าจะทำให้ลูกค้ามีความสะดวกติดตามตู้สินค้าได้ตลอด ในขณะที่ WIN ก็ได้บริการลูกค้าเพิ่มขึ้นและมียอดขายเพิ่มขึ้น
           "ถ้าบริษัทจะขยายงานที่ต้องลงทุนสูงๆ หรือจะคุยกับลูกค้า ทางบริษัทน่าจะมีอะไรที่ชัดเจน Direction ที่แน่นอนแต่ถ้าบรรยากาศการเมือไม่เอื้อเราก็คงตัดสินใจลำบากในการจะลงทุน แต่ถ้าดูเบื้องหลังของ CEO คนใหม่มาจากทางผู้บริหารสายเรืออาจจะเป็นบริการใหม่ที่เราจะให้กับลูกค้าได้โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องลงทุนอะไรมาก จะเป็นการเอื้อเพื่อขยายต่อยอดจากธุรกิจเดิมของเรา" นายนพพงษ์ กล่าว 
          ปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ กลุ่มวงศ์สวัสดิ์ที่ยังถือหุ้นเหลือประมาณ 17%  กลุ่มห้างหุ้นส่วนจำกัด สามประสิทธิ์ 24% และกลุ่มนายจักร จามิกรณ์ 17% ที่เหลือเป็นรายย่อย 
          นายนพพร กล่าวว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่จะถือหุ้นระยะยาวหรือไม่ ต้องรอดูฝีมืออีโอคนใหม่ เชื่อว่าในเดือนม.ค.51 น่าจะรู้ทิศทางธุรกิจชัดเจน 
*ปีหน้าธุรกิจดีขึ้นแน่ หลังเดินหน้าเต็มกำลัง-เจรจาลูกค้าใหม่เช่าพื้นที่เพิ่ม 
          นายนพพงษ์ เชื่อว่ารายได้ในปี 51 น่าจะดีกว่าปี 50 เพราะธุรกิจโลจิสติกส์เดินเครื่องได้เต็มที่ หลังจากที่ได้เริ่มให้บริการด้านขนส่งทางรถไฟในปีนี้ และ บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหม่ในส่วนของพื้นที่ฟรีโซนอีก 1 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ 
          ส่วนผลประกอบการในปี 50 คาดหวังว่าจะไม่ขาดทุนเหมือนที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ 80% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 20% 
          อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการไตรมาส 4/50 ในส่วนของขนส่งน่าจะปรับตัวได้ดีขึ้นจากไตรมาส 3/50 เพราะจำนวนตู้ขนส่งสูงขึ้น โดยไตรมาส 3/50 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 38.68 ล้านบาท จากรายได้เช่าบริการที่ลดลง และงวด 9 เดือนปี 50 งบการเงินรวมบริษัทมีขาดทุนสุทธิจำนวน 112.88 ล้านบาท 
          แต่บริษัทคงยังไม่สามารถพลิกจากขาดทุนเป็นกำไรได้ในไตรมาส 4/50 แม้เชื่อว่าน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นแต่ธุรกิจก็ยังดำเนินการปกติ โดยบริษัทแจ้งลูกค้าว่าธุรกิจของเรายังบริหารงานเหมือนเดิม
          นายนพพงษ์ กล่าวว่า หลังเลือกตั้งในส่วนของบริษัทคงไม่ได้มีผลกระทบอะไรเพราะตอนนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง ในส่วนของภาพรวมคงทำให้บรรยากาศการลงทุนชัดเจนขึ้นตรงนี้น่าจะส่งผลโดยรวมต่อภาวะเศรษฐกิจ เพราะในทางเศรษฐกิจรายย่อยจะลำบากถ้ารายใหญ่ไม่ลงทุนรายย่อยก็จะอยู่รอดลำบาก 
          ในส่วนของราคาหุ้นช่วงแรกคนก็คงจะคาดเดากันว่าทางกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามาน่าจะมีอะไรที่ดีจึงเก็งกำไรขึ้นไปราคาเลยสูงขึ้นไปสุดท้ายก็กลับมาที่พื้นฐานทางบริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดย BV อยู่ที่ 0.63 บาท/หุ้น แต่ราคาเทรดในกระดานสูงกว่า BV นักลงทุนคงดูที่ราคาที่ทางผู้ถือหุ้นซื้อขายกัน ซึ่งต้องดู Potential ในอนาคตของบริษัทด้วย
          ล่าสุด ราคาหุ้น WIN อยู่ที่ 1.31 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท (+11.97%)เมื่อ เวลา 16.11 น.