นายมนชัย มณีไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส (ICN) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 958.52 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 66.18 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้งานที่มีอยู่ในมือ (Backlog) ราว 400 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ราว 95% ของงานทั้งหมด รวมถึงโครงการที่เซ็นสัญญาไปแล้วในช่วงปลายปีที่ผ่านมา อาทิ โครงการ IP Access Network โครงการจ้างขยายความจุระบบสื่อสัญญาณ Backhaul ระหว่างส่วนกลางกับสถานีเคเบิลใต้น้ำ และโครงการ USO Mobile Network เป็นต้น
ขณะที่บริษัทเตรียมประมูลงานใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังมูลค่ารวมเกือบ 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการ USO NET เฟส 2 มูลค่าราว 20,000 ล้านบาท โดยบริษัทต้องการเป็นผู้ขายสินค้าให้กับผู้ชนะการประมูลโครงการ เบื้องต้นคาดมูลค่างานจะอยู่ที่ราว 1,000-2,000 พันล้านบาท และโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) คาดว่าจะเปิดประมูลได้เร็วๆ นี้มูลค่า ราว 3,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นงานจากหน่วยงานภาครัฐ หลัก 1,000 ล้านบาท
นายมนชัย กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะได้งานใหม่เข้ามาอีกไม่ต่ำกว่า 1,000-2,000 ล้านบาทจากมูลค่างานทั้งหมด เพื่อหวังผลักดันให้ Backlog เติบโต 25% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 60 ที่มี Backlog อยู่ 670 ล้านบาท โดยงานที่ประมูลได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะเข้าไปรับรู้เป็นรายได้ในปี 62 เป็นต้นไป
สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าช่วงไตรมาส 3/61 จะใกล้เคียงกับไตรมาส 2/61 ที่มีรายได้ 226.34 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 16.95 ล้านบาท แต่ในช่วงไตรมาส 4/61 ผลประกอบการจะเติบโตได้ค่อนข้างดีตามการรับรู้รายได้ Backlog ปัจจุบันและวานที่มีสัญญาในมือแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจากภาครัฐบาล 60% และภาคเอกชน 40% ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยจะมุ่งเน้นการเข้ารับงานโครงการขนาดใหญ่ หรือมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท จากที่ผ่านมาบริษัทรับงานในช่วง 10-100 ล้านบาท แต่หลังจากที่มีเงินทุนหมุนเวียนที่มีมากขึ้นจากการเข้าระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีศักยภาพมากขึ้นในการรับงาน
ขณะที่ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเข้าลงทุนธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเปิด-ปิดน้ำประปาอัตโนมัติ โดยรูปแบบการลงทุนจะเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจดังกล่าว เบื้องต้นคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้ลงทุนในสัดส่วนที่มากกว่า 50% และคาดจะใช้เงินไม่เกิน 30-40 ล้านบาท กระบวนการต่างๆ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และเริ่มรับรู้รายได้ในปี 62 ทันที
สำหรับบริษัทที่ ICN จะเข้าไปลงทุนนั้นมีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ในหลักร้อยล้านบาท และมีกำไรสุทธิเกือบสิบล้านบาท อย่างไรก็ดีการที่บริษัทเข้าไปลงทุนในธุรกิจการเปิด-ปิดน้ำประปาอัตโนมัติถือเป็นการขยายธุรกิจจากเดิมบริษัทอยู่ในกลุ่มของไฟฟ้า อีกทั้งจะช่วยผลักดันให้บริษัทเดิมสามารถเข้าไปรับงานโครงการได้มากขึ้น