บมจ.ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TCMC) เดินหน้าผลักดันบริษัทย่อยในต่างประเทศที่ทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อังกฤษภายในปี 62 เพื่อนำเงินมาใช้ลดหนี้และขยายธุรกิจ ขณะที่ภาพรวมผลงานของบริษัทแม่ตั้งเป้ายอดขายช่วง 3-5 ปีจากนี้เติบโตปีละ 8-10% หลังจากเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 1.4 ล้าน ตร.ม./ปี จากเดิม 1.2 ล้าน ตร.ม./ปี และเริ่มรับรู้รายได้ธุรกิจใหม่ พร้อมทั้งมั่นใจผลงานไตรมาส 4/61 จะทำจุดสูงสุดของปีจาการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และมั่นใจว่าปีนี้จะทำรายได้เข้าเป้า 9,000-10,000 ล้านบาท
ม.ล.วัลลีวรรณ วรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TCMC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 8-10% ปัจจัยหนุนมาจากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอีก 240,000 ตารางเมตร/ปี เนื่องจากบริษัทได้ใช้งบลงทุนไป 90 ล้านบาทเพื่อสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามาติดตั้ง ซึ่งจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในต้นปี 62 ทำให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มเป็น 1.4 ล้านตารางเมตร/ปี จากเดิมที่ 1.2 ล้านตารางเมตร/ปี ทำให้บริษัทสามารถผลิตสินค้าเพื่อรองรับออเดอร์ของลูกค้าได้มากขึ้น
อีกทั้งบริษัทยังมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในอังกฤษทั้ง ALSTONS และ DM MIDLANDS (DMM ) รวมถึงธุรกิจพรมในฮ่องกง คือ Tai Ping Carpets International ที่จะเข้ามาหนุนการเติบโตของยอดขายในอนาคต
ม.ล.วัลลีวรรณ กล่าวว่า การเพิ่มกำลังการผลิตใหม่เข้ามา ทำให้บริษัทสามารถขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้พรมราคาไม่แพง และต้องการระยะเวลาการส่งมอบสินค้าที่รวดเร็ว ทำให้บริษัทสามารถขายฐานลูกค้าไปในกลุ่มดังกล่าวได้ดี อีกทั้งบริษัทยังสามารถลดการพึ่งพาการสั่งผลิตพรม (OEM) จากประเทศจีนได้ ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และมีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ในปี 62 บริษัทจะมีการปรับโครงการสร้างธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในประเทศอังกฤษที่บริษัทได้เข้าซื้อมาก่อนหน้านี้ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการง่ายขึ้นและเป็นหมวดหมู่ขึ้น พร้อมเตรียมเปิดตลาดนำสินค้าที่อยู่ภายใต้แบรนด์ในเครือส่งออกมาไปจำหน่ายในประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้น เน้นการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มเอเชียเป็นหลัก โดยเริ่มในปี 62 เป็นต้นไป และจะเปิดโชว์รูมในประเทศไทย 1 แห่งในปีหน้า
การปรับโครงสร้างของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในอังกฤษยังเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อังกฤษเพื่อนำเงินมาใช้ชำระคืนหนี้ ลดภาระหนี้สินให้น้อยลง และนำไปใช้ขยายธุรกิจต่อ คาดว่าจะสามารถระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อังกฤษได้ภายในปี 63
ม.ล.วัลลีวรรณ กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่มีผลดำเนินงานสูงสุดของปี เนื่องจากมีออเดอร์ที่สั่งซื้อมาล่วงหน้าและต้องทยอยส่งมอบเป็นจำนวนมากทั้งธุรกิจพรมและเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ายอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ทั้งหมดที่ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/61 ทำให้บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 9,000-10,000 ล้านบาท