นิด้าโพล เผยผลสำรวจปชช.ไม่มั่นใจหากรัฐเปิดทางวิชาชีพอื่นขายยาเทียบเท่าเภสัชกร มองไม่มีความเชี่ยวชาญ

ข่าวหุ้น-การเงิน Sunday September 9, 2018 11:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นิด้าโพล เผยผลสำรวจเรื่อง"พ.ร.บ. ยา ฉบับใหม่ ประชาชนได้ประโยชน์?" พบว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าการที่ร่างพ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ จะเอื้อประโยชน์ให้วิชาชีพอื่นในสายสุขภาพ สามารถเปิดร้านขายยาได้เหมือนกับเภสัชกรนั้น จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะวิชาชีพอื่นในสายสุขภาพไม่มีความชำนาญ ความเชี่ยวชาญ เท่ากับเภสัชกร และไม่เชื่อมั่น หากบุคลากรวิชาชีพอื่นในสายสุขภาพจะสามารถจ่ายยา/ขายยาได้เทียบเท่ากับเภสัชกร รวมถึงยอมรับไม่ได้ หากให้วิชาชีพอื่นในสายสุขภาพสามารถจ่ายยา/ขายยาโดยไม่มีเภสัชกรควบคุม

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "พ.ร.บ. ยา ฉบับใหม่ ประชาชนได้ประโยชน์ ?" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3-4 กันยายน 2561 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง

จากการสำรวจเมื่อถามถึงผลดีหรือผลเสียต่อประชาชนกับการที่ "พ.ร.บ. ยา ฉบับใหม่" เอื้อประโยชน์ให้วิชาชีพอื่นในสายสุขภาพ สามารถเปิดร้านขายยาได้เหมือนกับเภสัชกร พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 51.20 ระบุว่า ส่งผลเสีย เพราะ วิชาชีพอื่นในสายสุขภาพไม่มีความชำนาญ ความเชี่ยวชาญ เท่ากับเภสัชกรที่จบมาเฉพาะด้าน ขณะที่บางส่วนระบุว่า ส่งผลทำให้มีร้านขายยาเพิ่มมากขึ้น รองลงมา ร้อยละ 46.48 ระบุว่า ส่งผลดี เพราะ จะได้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น วิชาชีพอื่นในสายสุขภาพก็มีความรู้ความสามารถ ไม่น้อยกว่าเภสัชกร และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการซื้อยามากขึ้น เนื่องจากในบางครั้งเภสัชกรก็ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ถูกต้องอย่างแพทย์ และร้อยละ 2.32 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

สำหรับปัญหาเกี่ยวกับยาที่ควรปรับปรุงแก้ไขมากที่สุด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 32.08 ระบุว่า การขายยาทางออนไลน์ รองลงมา ร้อยละ 15.92 ระบุว่า การให้วิชาชีพอื่นสามารถเปิดร้านขายยาได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ร้อยละ 13.12 ระบุว่า การโฆษณายาอันตราย ร้อยละ 12.80 ระบุว่า การผสมยาถือเป็นการผลิตยาใหม่ต้องมีการควบคุมเข้มงวด ร้อยละ 12.16 ระบุว่า การขายยาชุด ยาแบ่งขาย ร้อยละ 10.80 ระบุว่า การจัดประเภทของยาตามหลักสากล คือ จ่ายยาตามใบสั่งแพทย์ จ่ายยาโดยเภสัชกร ยาสามัญที่ประชาชนซื้อได้เอง ร้อยละ 0.88 ระบุว่า การนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาให้บริการด้านยาแก่ประชาชน และร้อยละ 2.24 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ด้านความเชื่อมั่นของประชาชนต่อบุคลากรวิชาชีพอื่นในสายสุขภาพว่าจะสามารถจ่ายยา/ขายยาได้เทียบเท่ากับเภสัชกร พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 68.00 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่น เพราะ เภสัชกรมีความรู้ ความชำนาญมากกว่าบุคลากรวิชาชีพอื่นในสายสุขภาพ เนื่องจากเรียนตรงตามหลักสูตรและตรงกับสายงาน ขณะที่บางส่วนระบุว่า ต้องการผู้ที่มีความรู้ ความสามารถเฉพาะทางในการแนะนำหรือจ่ายยา รองลงมา ร้อยละ 29.44 ระบุว่า เชื่อมั่น เพราะ บุคลากรวิชาชีพอื่นในสายสุขภาพมีความรู้ความสามารถเทียบเท่ากับเภสัชกร และร้อยละ 2.56 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการยอมรับให้วิชาชีพอื่นในสายสุขภาพสามารถจ่ายยา/ขายยาโดยไม่มีเภสัชกรควบคุม พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.04 ระบุว่า ยอมรับไม่ได้ เพราะ ผู้ที่จะจ่ายยาได้นั้นต้องเป็นเภสัชกร หรือมีเภสัชกรคอยควบคุมการจ่ายยา ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่มีความมั่นใจหากเป็นวิชาชีพอื่นที่ไม่ได้จบเฉพาะทาง ไม่มีความเชี่ยวชาญเทียบเท่าเภสัชกร อาจจะจ่ายยาไม่ตรงกับโรคที่เป็นหรือจ่ายยาผิด รองลงมา ร้อยละ 21.12 ระบุว่า ยอมรับได้ เพราะ เป็นการเปิดกว้างในด้านอาชีพมากขึ้น เนื่องจากวิชาชีพอื่นในสายสุขภาพก็มีความรู้ ความสามารถเทียบเท่ากับเภสัชกร และร้อยละ 1.84 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ