นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะปรับตัวอ่อนลง จากความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน จากกรณีที่สหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าจีน 2.0 แสนล้านเหรียญ และยังขู่เรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.67 แสนล้านเหรียญ อีกทั้งยังรอดูการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับแคนนาดา
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับการที่สหรัฐฯจะทำสงครามการค้ากับญี่ปุ่นเป็นประเทศต่อไป รวมถึงเทรนด์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ก็ยังเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายหุ้น และยังมีผลต่อค่าเงินที่ผันผวนในตลาด Emerging Market ต่อไป
ให้แนวรับ 1,675 จุด และแนวต้าน 1,700 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด ( (7 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,916.54 จุด ลดลง 79.33 จุด หรือ -0.31% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,871.68 จุด ลดลง 6.37 จุด หรือ -0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,902.54 จุด ลดลง 20.18 จุด หรือ -0.25%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 53.41 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.29 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 51.20 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 4.23 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 3.19 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 7.13 จุด ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดชดเชยวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพยังดีเปอร์ตวนอากง
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ก.ย.61) 1,689.49 จุด ลดลง 4.45 จุด (-0.26%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 751.66 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ก.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 ก.ย.61) ปิดที่ 67.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ก.ย.61) ที่ 6.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)เปิดเผยว่า สนข. จะเร่งพัฒนาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 12 สายทางให้แล้วเสร็จภายในปี 68 จากเดิมกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 72 ซึ่งจะเป็นรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม 10 เส้นทาง และรถไฟฟ้าในความรับผิดชอบของ กทม.อีก 2 เส้นทาง คื อสายสีเทา(วัชรพล-พระรามเก้า) และสายสีฟ้า (ดินแดง-สาธร) ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่บริการกว่า 680 ตารางกิโลเมตร มีระยะทางรวม 509 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้ารวม 312 สถานี เพื่อบริการประชาชน 5.13 ล้านคน/วัน จากปัจจุบันให้บริการ 1 ล้านคน/วัน และทำให้กระทรวงคมนาคมเปิดให้บริการรถไฟฟ้าเร็วกว่ากำหนดถึง 4 ปี
- รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานจะสรุปกรอบร่างแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2018) พ.ศ.2561-80 ให้เสร็จภายใน ก.ย.นี้ จากนั้นจะนำเสนอขอความเห็นชอบกับคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ต่อไป
- อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมมีความพร้อมที่จะดำเนินการโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาท/ปี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลังได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2562 เข้ากองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากเพิ่มเติมอีก 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพียงพอใช้เป็นสวัสดิการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการได้ตลอดทั้งปีงบประมาณวันที่ 1 ต.ค. 2561-30 ก.ย. 2562 หลังจากที่ผ่านมามีการเบิกจ่ายเงินจากกองทุนฯ ออกมาใช้แล้วเกินกว่า 4 หมื่นล้านบาท
- อธิบดีกรมการค้าภายใน ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า ได้แจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการ กำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กรณีบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (จีพีเอสซี)เข้าซื้อหุ้นเพื่อควบรวมกิจการผลิตไฟฟ้าของบริษัท โกลว์ พลังงาน ว่าสามารถขออนุญาตกับสำนักงาน กกพ. ได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องรอให้สำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าชี้ขาดว่าเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาดตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทาง การค้า พ.ศ. 2560 หรือไม่
- CK (เคจีไอ)"ซื้อ" และขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย SoTP กลางปี 2562 ที่ 30.00 บาท เราจะจับตาความคืบหน้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินเนื่องจาก CK เป็นหนึ่งในกลุ่ม consortium ที่ยื่นประมูลโครงการนี้
- EA (กสิกรไทย)"ซื้อ" เป้า 42 บาท ผู้บริหารคาดโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมานที่จังหวัดชัยภูมิจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ตามกำหนดคือในไตรมาส 4/61, EA ก่อตั้งบริษัทย่อยคือ AMITA Taiwan เพื่อลงทุนในธุรกิจโรงงานผลิตแบตเตอรี่โดย EA ถือหุ้นอยู่ 70% 3. EA เพิ่งประกาศว่าบริษัทย่อยคือ Con Dao (SG) ในประเทศสิงคโปร์เตรียมที่จะลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนใหม่ในต่างประเทศทั้งโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์และ energy storage(ESS) และตั้งเป้ากลุ่มลูกค้าคือผู้ใช้ไฟฟ้าในประเทศสิงคโปร์ซึ่งใช้ไฟฟ้าจากดีเซลอยู่ในขณะนี้
- SPA (ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ" เป้า 18.10 บาท ยังมีมุมมองเป็นบวกกับธุรกิจใหม่ของบริษัท "Stretch me by Let’s Relax" โดยคาดว่าจะช่วยบริษัทในการขยายฐานลูกค้าและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพานักท่องเที่ยว และคาดกำไรของ SPA ใน FY18F ที่เติบโต 30.5% จากยอดขายต่อสาขาที่เติบโตต่อเนื่องและการขยายสาขา