SUPER เตรียมยื่นไฟลิ่งจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานต่อ ก.ล.ต.ภายใน ก.ย.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 10, 2018 10:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) กล่าวถึงความคืบหน้าของการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์) ว่า จะยื่นไฟลิ่งในการจัดตั้งกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้ในเดือนกันยายนนี้ ล่าสุดคณะกรรมการได้อนุมัติให้บริษัท 17 อัญญวีร์ โฮลดิ้ง จำกัด (17AYH) และ บริษัท เฮลท์ แพลนเน็ท เมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (HPM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SUPER ทำรายการจำหน่ายสินทรัพย์ในโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 19 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 118 เมกะวัตต์ ให้กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือ อินฟราฟันด์

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาขนาดธุรกรรมการโอนสิทธิรายได้สุทธิ โดยวิธีเปรียบเทียบมูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน ธุรกรรมการโอนสิทธิรายได้สุทธิ มีขนาดรายการไม่เกิน 9,000 ล้านบาท รวมทั้งคณะกรรมการได้อนุมัติให้บริษัทฯทำธุรกรรมซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวได้ในสัดส่วน 33%

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 61 คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่ง เนื่องจากเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ อีกทั้งยังมีการขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่ม จากโครงการโรงไฟฟ้าโดยใช้เชื้อเพลิงทดแทนจากสิ่งปฏิกูลที่ไม่เป็นของเสียอันตราย ของบริษัท กรีน เพาเวอร์ เอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก SUPER มีกำลังการผลิตเสนอขายรวม 9.9 เมกะวัตต์ที่เริ่มขายไฟแล้วตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าสหกรณ์การเกษตร เฟส 2 ขนาดกำลังการผลิต 28 เมกะวัตต์ ในช่วงไตรมาส 4/2561 ผลักดันให้รายได้ และกำไรในปีนี้เติบโตตามกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น

"เรายังเชื่อมั่นว่าในปีนี้จะเป็นปีที่ดีของ SUPER และสามารถสร้างรายได้เติบโตก้าวกระโดด จากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นช่วงปลายปีนี้ และจะรับรู้รายเต็มปีในปีหน้า ซึ่งจะผลักดันให้กระแสเงินสดมีความแข็งแกร่ง พร้อมที่จะขยายการลงทุนโครงการใหญ่ต่างๆ ตามแผนงานที่วางไว้ และอยากให้มองว่าปีนี้จะเป็นปีแรกที่เรา จะมีส่วนแบ่งรายได้จากโรงไฟฟ้าขยะประมาณสัดส่วน 4- 5% นอกจากโซลาร์เซลล์อย่างเดียว และจะพยายามเพิ่มสัดส่วนมากขึ้น เพราะสร้างมาร์จินระดับสูง ปัจจุบัน SUPER อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะ จ.พิจิตร กำลังการผลิต 9 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตอย่างมีนัยยะในอนาคต " นายจอมทรัพย์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมความพร้อมการซื้อขายไฟฟ้าในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ (SPP Hybrid Firm ) อีกจำนวน 30 เมกะวัตต์ รวมถึงแผนการขายไฟไฟฟ้าโดยตรงให้กับลูกค้าในลักษณะ Private PPA ก็น่าจะเริ่มดำเนินการภายในปีนี้เช่นกัน ซึ่งตามแผนงานที่วางไว้ บริษัทจะทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและคาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 ของปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ