นายสันติ ปิยะทัต ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยเศรษฐกิจประกันภัย (TSI) เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินงานภายหลังที่หลักทรัพย์ของบริษัทฯ ถูกขึ้นเครื่องหมาย "C" ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ 3 ปี ระหว่างปี 2561-2563 ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปีโดยให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาภายใน ด้วยการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมทั้งปรับปรุงระบบงานภายในให้มีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุน ควบคู่การพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมเพื่อรองรับกับการแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันการดำเนินงานของบริษัทฯ เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น
"ในปีนี้เราเน้นเรื่องของการปรับโครงสร้างภายในองค์กร เพิ่มศักยภาพบุคลากร การปรับปรุงคุณภาพงานบริการ ตลอดจนวางแนวทางการเพิ่มช่องทางรายได้ นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาระบบเทคโนโลยีมาใช้กับการบริการรูปแบบออนไลน์ ฯ โดยในไตรมาส 3-4 นี้ บริษัทฯ มีความพร้อมในการนำระบบ web service เชื่อมต่อกับตัวแทนและโบรกเกอร์มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขายผ่านระบบออนไลน์ให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาการทำงาน" นายสันติกล่าว
สำหรับการลดต้นทุนในการดำเนินงาน จะมีทั้งในส่วนของการปรับปรุง Portfolio ของกลุ่มงานประกันภัยเพื่อเพิ่มคุณภาพของงานและลดความเสี่ยง โดยการนำสถิติเข้ามาใช้ในการวิเคราะห์คุณภาพของงาน ลูกค้า และความมีประสิทธิภาพของแต่ละผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังใช้เป็นข้อมูลสร้างเสริมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงวิเคราะห์และปรับปรุงการบริหารจัดการความเสี่ยงของการรับประกันภัยและการประกันภัยต่อ
อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องการปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโดยการลดค่าใช้จ่ายของสำนักงาน พร้อมกับการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายสินไหมทดแทน อีกทั้งยังปรับปรุงมาตรการและนโยบายการจัดเก็บชำระเบี้ยประกันภัยให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น การพิจารณาควบคุมสินเชื่อ และการปรับปรุงเครดิตทางการค้า การควบคุมเรื่องคุณภาพของตัวแทน นายหน้า เมื่อการดำเนินงานเสริมสร้างองค์กรภายในมีความแข็งแกร่งแล้วจะเริ่มเข้าสู่แผนในระยะกลางคือ การปรับปรุงภาพลักษณ์ TSI ให้เป็นที่ยอมรับและสร้างความเชื่อมั่นจากกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมกับการเปิดตลาดลูกค้านบุคคล (PA)กลุ่มใหม่ พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้สอดคล้องกับตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว