นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้จัดการ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 4-5% ตามการเติบโตของการให้บริการเที่ยวบิน และปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานที่เพิ่มขึ้น โดยในส่วนของปริมาณการเติมน้ำมันปีนี้คาดว่าจะเติบโต 5-6% จากช่วงครึ่งปีแรกที่มีปริมาณการเติมน้ำมันอยู่ที่ 2,993 ล้านลิตร หรือเติบโต 5.2% และการให้บริการเที่ยวบิน 151,156 เที่ยวบิน หรือเติบโต 6.5% ซึ่งเป็นผลมาจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ปลดธงแดงมาตรฐานการบินของไทย ส่งผลให้สายการบินต่าง ๆ เพิ่มเที่ยวบิน และเส้นทางการบินใหม่ ๆ มากขึ้น
สำหรับเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต เป็นเหตุให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตจำนวนหนึ่งนั้น บริษัทยังคงติดตามผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างได แม้อาจจะมีการพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมากก็ตาม
ขณะที่ทิศทางนักท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลังเองก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่หนีปัญหาภัยพิบัติในประเทศตนเองเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ขณะที่ไทยมีปริมาณพายุที่เบาบาง และในช่วงไตรมาส 4 โดยปกติจะเป็นช่วงไฮซีซั่นเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวด้วย
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติที่ 28-29% จากปีก่อนที่ 26.6% เนื่องจากจะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นเหมือนปีก่อนคือ ค่าชดเชยท่อส่งน้ำมันชำรุดและการกลับรายการประมาณการหนี้สิน นอกจากนี้บริษัทยังเน้นการบริหารจัดการด้านต้นทุนได้ดีด้วย
นายประกอบเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนลงทุนให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภานั้น ปัจจุบันก็ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด และถึงแม้ว่าปัจจุบันการดำเนินการต่าง ๆ ของราชการยังไม่แล้วเสร็จ แต่ทางบริษัทก็ได้ยื่นความจำนงและได้เสนอแนวทางในการพัฒนาเข้าไปแล้ว เพื่อเป็นการแสดงความประสงค์ที่จะเข้าลงทุนในโครงการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างความชัดเจนของร่างเอกสารเชิญชวนประมูล (TOR) และผู้รับเหมาโครงการหลัก ซึ่งบริษัทจะเข้าประมูลในส่วนของการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน
พร้อมกันนั้น บริษัทศึกษาลงทุนการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานในท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานน่าน และท่าอากาศยานแพร่ แต่ยังต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรมท่าอากาศยาน ที่เป็นหน่วยงานต้นสังกัดว่าจะมีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวอย่างไร ส่วนการออกไปลงทุน และขยายการให้บริการการเติมน้ำมันอากาศยาน ในต่างประเทศนั้น ยังคงต้องใช้เวลา เนื่องจากยังมีความไม่ชัดเจนในเรื่องของกฎหมายข้อบังคับต่างๆก่อนว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งบริษัทก็ได้มีการติดตามอยู่เป็นระยะเช่นกัน