นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) กล่าวว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 3.75 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมองว่าในครึ่งปีหลังนี้น่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก โดยครึ่งปีแรกมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 1.85 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 12.56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเป็นช่วงของไฮซีซั่นของธุรกิจที่จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงปลายปีนี้ออกมากระตุ้นตลาด ทั้งสินค้ากลุ่มโน้ตบุ๊ค และสมาร์ทโฟนแบรนด์ชั้นนำ เช่น iPhone, Samsung และ Huawei เป็นต้น ซึ่งบริษัทน่าจะได้รับอานิสงส์จากการขายสินค้าดังกล่าว
ด้านยอดขายสินค้าไอทีในต่างประเทศก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในประเทศเมียนมามีอัตราการเติบโตถึง 30%, ประเทศกัมพูชามีอัตราเติบโต 100% และประเทศลาวก็มีการเติบโตดีขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มตลาดใหม่และมีคู่แข่งน้อย ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายต่างปรเทศสิ้นปีนี้จะเติบโตเป็น 1 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ภาพรวมของตลาดไอที ทั้งคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ค ยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการใช้ของกลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทยที่ยังมีแนวโน้มเติบโตสูง รวมทั้งกระแสของเกม ทำให้โน้ตบุ๊คและคอมพิวเตอร์ประกอบสำหรับนักเล่นเกม ได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้น ซึ่งมีราคาสูงและอัตรากำไรที่ดี โดยในช่วงต้นปีหน้า บริษัทมีแผนนำสินค้าไปจำหน่ายในงาน eSport Campus Tournament ซึ่งงานดังกล่าวบริษัทได้ร่วมกับเจ้าของผลิตภัณฑ์หลายราย เพื่อกระตุ้นตลาดในประเทศไทย จากปัจจุบันมูลค่าตลาดเกมเติบโตสูงมาก หรือประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และอยู่ในอันดับ 2 ของประเทศในกลุ่มอาเซียน
นอกจากนี้มีการขยายตลาดไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ เพื่อรองรับเทรนด์เทคโนโลยีที่เข้ามาใช้ในเชิงอุตสาหกรรมมากขึ้น ได้แก่ กลุ่ม Cloud Service และกลุ่ม IoT Solutions (Internet of Things) ล่าสุด มีโครงการที่บริษัท ร่วมกับพันธมิตรทำเน็ตเวิร์คกิ้ง แอนด์ ซิสเต็มทั้งหมด ให้กับบริษัทชั้นนำ ในการติดตั้ง ดูแล และบริการหลังการขาย จะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในครึ่งปีหลังนี้ รวมทั้งการพัฒนาด้านซอฟท์แวร์ เขียนโปรแกรม และใช้ Big Data เพื่อวิเคราะห์ประมวลผลข้อมูลให้กับลูกค้า จากการที่บริษัท เป็นพันธมิตรทางการค้ากับ Amazon Web Services และ Alibaba Cloud ให้สามารถใช้เทคโนโลยีคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นโปรเจกต์ใหม่ที่มุ่งเน้นเพื่อการเติบโตในอนาคต อีกทั้งนโยบายที่ประเทศไทยกำลังเดินหน้าพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ทำให้มั่นใจว่าบริษัท จะมีการเติบโตที่ดี ซึ่งคาดว่าจะเห็นรายได้จากธุรกิจในกลุ่ม Cloud & Solution ในปี 62 ประมาณ 1 พันล้านบาท
"ภาพรวมในปีนี้ เราเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีมาตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะสิ้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำนิวไฮในวันเดียว ทั้งยอดขาย จำนวนบิล และปริมาณสินค้าที่ขาย ได้ทำลายสถิติสูงสุดใหม่ ในขณะที่การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายในงวดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สามารถทำได้เป็นอย่างดี โดยลดค่าใช้จ่าย ในการขนส่งต่อรายได้จากการขายลงมาอยู่ที่ 0.61% นอกจากนี้บริษัทเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าและบริการ ด้านไอทีแบบครบวงจร ด้วยการให้บริการก่อนและหลังการขายโดยผู้ชำนาญเทคนิคเฉพาะด้าน รองรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันอย่างมากขึ้น ทำให้ซินเน็คมีโอกาสในการเติบโตได้ทั้งในกลุ่มผู้บริโภค กลุ่มลูกค้าองค์กร และกลุ่มภาคอุตสาหกรรม ครบวงจรด้วยบริการทางการเงินให้กับลูกค้า สะท้อนความสามารถในการบริหารจัดการให้ธุรกิจเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังให้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ และมั่นใจผลประกอบการทั้งปี 61 จะเป็นอีกปีที่ดีที่สุดของซินเน็ค" นางสาวสุธิดา กล่าว
นางสาวสุธิดา กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการนำบริษัท บัฟ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยซึ่งทำธุรกิจให้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ในปี 62 และจะนำเข้าจดทะเบียนฯ ได้ในปี 63 อย่างไรก็ตามปัจจุบัน บัฟฯ ถือว่ามีอัตราการเติบโตในระดับที่สูงมาก หรือราว 30% ต่อปี และยังมีแผนขยายไปสู่ธุรกิจปล่อยสินเชื่อในสินค้าไอทีในอนาคต
พร้อมกันนี้บริษัทเตรียมจับมือกับทางบมจ.คอมเซเว่น (COM7) ในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปี 62 แต่ขณะนี้ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด