ดัชนีหุ้นไทยภาคบ่ายร่วงกว่า 10 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับลดลง ขณะที่นักลงทุนยังจับตาสงครามการค้า กดดันให้มีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่นำออกมา อย่าง PTT , SCC และ AOT ฉุดภาพรวมการลงทุน
เมื่อเวลา 15.49 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,679.57 จุด ลดลง 11.94 จุด (-0.71%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.07 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,679.18 จุด ลดลง 12.33 จุด (-0.73%)
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา ขณะที่ยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกประเทศที่ยังไม่มีความแน่นอนต่อกรณีของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและคู่ค้าประเทศต่าง ๆ ตลอดจนความกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจในประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ทำให้นักลงทุนต่างชาติอาจจะระมัดระวังการลงทุนและหลีกเลี่ยงการลงทุนใน Emerging Market ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของไทยจะดูดีกว่าหลายประเทศใน Emerging Market ก็ตาม ทำให้ภาพตลาดหุ้นไทยยังมีลักษณะของความเปราะบาง
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยยังรอปัจจัยบวกใหม่จากภายในประเทศเข้ามา โดยเฉพาะประเด็นทางการเมืองที่คาดหวังว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญการได้มาซึ่งส.ว. ซึ่งจะทำให้ภาพการเลือกตั้งมีความชัดเจนมากขึ้น
ทั้งนี้ หากดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 1,680 จุดได้ ก็อาจจะทำให้ดัชนีรีบาวด์ได้ในระยะสั้น แต่จะยังอยู่ในกรอบจำกัด โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,690 จุด เพราะยังมีปัจจัยภายนอกกดดันอยู่ แต่หากดัชนีไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,680 จุด ก็จะทำให้ดัชนีมีแนวรับถัดไปที่ 1,670 จุด