ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,668.28 จุด ลดลง 4.14 จุด (-0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 23,000.43 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,674.10 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,666.07 จุด
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) หรือ KGI กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ที่ติดลบ จากยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกที่คลุมเครือ และยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา โดยสงครามการค้ายังไม่มีข้อสรุป ซึ่งมุมมองฝ่ายวิจัย KGI จีน และ KGI ไต้หวันคาดว่าสหรัฐฯจะเก็บภาษีนำเข้า 10% กับสินค้าจากจีนมูลค่าอีก 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนประมาณ 0.5% ต่อปี หากรวมกับมาตรการภาษี 25% กับสินค้ามูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญฯ ที่มีผลบังคับใช้แล้ว ผลกระทบรวมต่อ GDP จีนน่าจะอยู่ที่ 0.8% ต่อปี ซึ่งหากยังไม่มีข้อสรุปก็จะกดดันตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย
นอกจากนี้ ยังทำให้นักลงทุนต่างชาติมีแรงขายออกมา ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนช่วงที่นักลงทุนต่างชาติยังขายอยู่ และมีปัจจัยลบจากต่างประเทศ จึงควรจะระวังหุ้นขนาดใหญ่ในช่วงสั้น แล้วรอให้สงครามการค้ามีความชัดเจน พร้อมมองหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีข่าวหนุนสามารถเข้าลงทุนได้ โดยเฉพาะโครงการลงทุนของภาครัฐฯจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มรับเหมาฯ และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายสุโชติ กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่ง Sideway Down โดยมีแนวรับ 1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,437.22 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,027.42 ล้านบาท ปิดที่ 48.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 967.15 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 936.04 ล้านบาท ปิดที่ 77.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCC มูลค่าการซื้อขาย 883.79 ล้านบาท ปิดที่ 430.00 บาท ลดลง 4.00 บาท