(เพิ่มเติม) กพท.ระบุ"พาที"ปฏิเสธเป็นนอมินีต่างชาติใน"นกสกู๊ต"ถือว่าเรื่องจบแล้ว,เกาะติด NOK แก้ปัญหาหนุนดึงต่างชาติถือหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 12, 2018 13:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า นายพาที สารสิน อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) ติดต่อมาเมื่อวานนี้เพื่อยืนยันว่าไม่ได้ถือหุ้นแทนใครในบริษัท นกมั่งคั่ง จำกัด แต่เป็นการถือหุ้นในนามส่วนตัว ซึ่งเป็นหุ้นบุริมสิทธ์ สัดส่วน 50% และส่วนที่เหลือถือหุ้นโดย NOK สัดส่วน 49% เป็นหุ้นสามัญและนางสาวมยุรี เพชรนอก ถือหุ้น 1% (หุ้นบุริมสิทธิ์)

ทั้งนี้ บริษัท นกมั่งคั่ง จำกัด ถือหุ้นสายการบินนกสกู๊ด 49% Scoot จากสิงคโปร์ ถือ 49% และบริษัท เพื่อนน้ำมิตร จำกัด ถือหุ้น 2% ดังนั้น สายการบินนกสกู๊ด ไม่ได้ผิดเงื่อนไขการให้อนุญาตเดินอากาศในประเทศไทย และยังคงสถานะเป็นสายการบินสัญชาติไทย

"เมื่อวานเขา (นายพาที) โทรติดต่อมาแล้วว่าเขาไม่ได้เป็นนอมินี เขาถือหุ้นส่วนตัวเป็นหุ้นบุริมสิทธิ์ เขาบอกเขาไม่ได้พูดเป็นนอมินี เราก็ตรวจสอบตามเอกสาร เมื่อเขาปฏิเสธเรื่องก็จบ"นายจุฬา กล่าว

ผู้อำนวยการ กพท.กล่าวอีกว่า ในส่วนของ NOK ที่อาจมีปัญหาเรื่องฐานะการเงิน เบื้องต้นทราบว่าผู้ถือหุ้นอยู่ระหว่างหาผู้ร่วมลงทุนเข้ามาเพิ่มเจิม จากปัจจุบันมีกลุ่มจุฬางกูรเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สัดส่วน 52.35% ส่วน บมจ.การบินไทย (THAI) ถือหุ้นในสัดส่วน 21.8%

ขณะนี้แนวทางที่ NOK จะประคองธุรกิจไปได้ อาทิ ลดบุคคลากร ลดค่าใช้จ่าย เป็นต้น ซึ่งทาง กทพ.ต้องติดตามดูว่าการลดค่าใช้จ่ายจะกระทบถึงมารตรฐานความปลอดภัยหรือไม่ โดยเฉพาะการซ่อมบำรุงเครื่องบินตามโปรแกรม แต่ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในระยะหลัง NOK มีการยกเลิกเที่ยวบินบ้างเป็นหลักสิบเที่ยวบินต่อเดือน โดย NOK แจ้งผู้โดยสารล่วงหน้า และยังไม่มีผู้ร้องเรียน เพราะกรณีสายการบินยกเลิกเที่ยวบินต้องจัดเที่ยวบินอื่นทดแทน หรือคืนตั๋ว

นอกจากนั้น ยังมีแผนปรับตารางบิน ลดเที่ยวบิน แต่วิธีการนี้ กพท.จะทำให้รายได้ลด ส่วนการให้บริการเช่าเหมาลำเพิ่มเป็นการเพิ่มรายได้

"ผมคิดว่าเขาอาจจะมีคนเข้ามา Takeover และเปลี่ยนผู้บริหาร เพราะที่ผ่านมามีขาดทุนสะสมซึ่งสายการบินมีการใช้จ่ายเยอะ การเปลี่ยนผู้ถือหุ้นเป็นเรื่องของเขา เมื่อเขาเปลี่ยนเสร็จก็จะมาแจ้งเรา"

นายจุฬา กล่าวว่า NOK ถือว่าเป็นสายการบินที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับสองของสายการบินต้นทุนต่ำ แต่มีเครือข่ายการบิน (Network)ดีที่สุด เพราะเปิดบินที่สนามบินดอนเมืองก่อน ดังนั้น มูลค่าของ NOK อยู่ที่การมี Network ครอบคลุม โดยปัจจุบันสายการบินไทยแอร์เอเชีย ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่ง และสายการบินไทยไลอ้อนแอร์เป็นอันดับสาม

"ผมคิดว่าในที่สุดจะมีคนซื้อนกแอร์ จริงๆ พื้นฐานในตลาดเขาเป็นเบอร์สอง และเป็นสายการบินที่มี Network ดีมากมูลค่าอยู่ที่ตรงนี้ ใน 3 ราย Lowcost Airline นกแอร์ดีสุด"นายจุฬา กล่าว

นายจุฬา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ NOK ถือว่าเป็นสายการบินที่มีคนไทยถือหุ้น 100% การแบ่งสัดส่วนหุ้นมาขายให้นักลงทุนต่างชาติก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้ โดยไม่ผิดเงื่อนไขใบอนุญาตการเดินอากาศ (AOL)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ