นายคิมห์ สิริทวีชัย รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานบริหารการลงทุน บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) คาดว่างบลงทุนที่ใช้ลงทุนบริษัทร่วมลงทุน (Venture Capital)ในปี 62 จะมากกว่า 200 ล้านบาท จากปกติบริษัทตั้งงบลงทุน Venture Capital ปีละ 200 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นโอกาสการลงทุนธุรกิจ Start Up ที่มีจำนวนมากและอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอาจจะมี AI , Blockchain ,Big Data ทั้งนี้คาดว่าจะนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
สำหรับปีนี้บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุน Venture Capital รวมทั้งหมดประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งเต็มเพดานที่บริษัทอนุมัติไว้ โดยข่วงที่ผ่านมาของปีนี้ได้ใช้เงินลงทุนไปแล้ว 70 ล้านบาทใน 2 บริษัท และในช่วงที่เหลือปีนี้น่าจะมีการลงทุนเพิ่มอีก 1-2 บริษัท ถือเป็นปีแรกที่ใช้งบลงทุนมากที่สุด
"ปีนี้เราใช้ budget สูงสุด 200 ล้านบาท การลงทุนของเราจะนำเข้าตลาดฯ คิดว่าจะมีการเพิ่มมูลค่าการลงทุน "วงใน"จะเป็นบริษัทแรกที่เราจะนำเข้าตลาด mai ในอีก 2 ปี"นายคิมห์ กล่าว
นายคิมห์ กล่าวว่า ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาบริษัทใช้เงินลงทุนในการลงทุน Venture Capital เฉลี่ยปีละ 100 ล้านบาท/ปี จากงบลงทุนปีละ 200 ล้านบาท ที่ผ่านมาลงทุนแล้ว รวมล่าสุดที่มีการลงทุนใน บริษัท ช็อคโก้ คาร์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด จำนวน 16 บริษัท ซึ่งขายออกไป 2 บริษัท และควบรวม 2 บริษัท ทำให้เหลือจำนวนบริษัทที่มีการลงทุนอยู่ใน 12 บริษัท รวมมูลค่าการลงทุน 680ล้านบาท (ตามราคาตลาด) เทียบกับเงินลงทุน 470 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมนำ "วงใน" เข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในอีก 2 ปี หรือในปี 63 ซึ่งขณะนี้ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินและมีผู้ตรวจสอบบัญชี ส่วนบริษัทถัดไปที่จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาด mai คือ "อุ๊คบี" ที่ขณะนี้ยังขาดทุนอยู่
ทั้งนี้ INTUCH ได้ลงทุน"วงใน"แล้ว 60 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถือหุ้นประมาณ 10% ของทุนจดทะเบียนส่วน"อุ๊คบี"ลงทุนแล้วประมาณ 58 ล้านบาทคิดเป็น 21-22% ของทุนจดทะเบียน
ล่าสุด Choco CRM โดยบริษัท ช็อคโก้ คาร์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด หนึ่งในผู้นำการให้บริการระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management - CRM) และ POS Digital Platform นำเสนอโซลูชั่นระบบเชื่อมความสัมพันธ์ลูกค้าสำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ได้รับเงินทุนสนับสนุน Series A Funding ด้วยเงินทุนมูลค่า 40 ล้านบาท จาก INTUCH ผ่านโครงการอินเว้นท์ โดยบริษัท ช็อคโก้คาร์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ จะนำเงินลงทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจ เล็งขยายฐานลูกค้าเป็น 3,000 ราย ภายใน 3 ปี เน้นกรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ และภูเก็ตเป็นหลัก
นายณรงค์พันธ์ บุญทรงไพศาล หัวหน้าโครงการบริษัทร่วมลงทุน อินเว้นท์ INTUCH กล่าวว่าการลงทุนครั้งนี้บริษัทเล็งเห็นศักยภาพและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของช็อคโก้ คาร์ด ผู้นำตลาดในการนำเทคโนโลยีมาใช้กับระบบ CRM Loyalty Platform สำหรับ SMEs หลากหลายประเภทธุรกิจ
จุดเด่นของบริษัทคือ ระบบ CRM ที่ครอบคลุมทุกมิติของ Loyalty Program อีกทั้งสามารถเชื่อมโยง เข้ากับโปรแกรมขายหน้าร้านได้ (POS) ทำให้ร้านค้าสามารถนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์ใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วนำเสนอบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุดเพื่อกระตุ้นให้กลับมาใช้บริการร้านค้าอีก บริษัทมีทีมงานรวมทั้งผู้ก่อตั้งที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำธุรกิจให้เติบโต และมีแนวคิดการพัฒนาธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนของอินทัช จึงทำให้ทางอินทัชตัดสินใจร่วมทุนผ่านทางโครงการ InVent
"ปัจจุบัน ระบบ CRM มีความสำคัญต่อธุรกิจ SMEs อย่างมาก ทางอินทัชจึงเห็นถึงโอกาสที่ธุรกิจเกี่ยวกับระบบ CRM จะเติบโตไปพร้อมๆ กับการเพิ่มขึ้นของธุรกิจ SMEs ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวน SMEs มากถึง 3 ล้านรายซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 99% เมื่อเทียบกับจำนวนธุรกิจทั้งประเทศซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพที่จะใช้บริการของ ช็อคโก้ คาร์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ ทางอินทัชเชื่อว่าการลงทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยสามารถแข่งขันและเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ อันจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจไทยในภาพรวมต่อไป" นายณรงค์พนธ์ กล่าวเพิ่มเติม
นายสิรสิทธิ์ สุริยพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ช็อคโก้ คาร์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด กล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดนำพาบริษัทช็อคโก้ไปสู่เป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการระบบ CRM ชั้นนำของประเทศ โดยจะนำเงินลงทุนไปใช้ในการพัฒนา Platform ให้แข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมเพิ่มทีมงานเพื่อตอบรับกับแผนการขยายธุรกิจเพื่อบุกตลาด SMEs และกลุ่มลูกค้าระดับองค์กรทั่วประเทศแบบเต็มตัว
ทั้งนี้ Choco CRM ตั้งเป้าว่าจะขยายฐานลูกค้าของ Choco CRM เป็น 3,000 ราย ภายใน 3 ปี โดยจะเน้นขยายให้บริการระบบ CRM แก่กลุ่มลูกค้าประเภทร้านอาหาร ร้านตัดผม ร้านล้างรถ และร้านค้าอื่นๆ ในหัวเมืองหลัก เช่น กรุงเทพฯ ชลบุรี และภูเก็ตก่อน และขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป
นายรัฐพล ศิริชุมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ช็อคโก้ คาร์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด กล่าวว่า เริ่มต้นจุดประสงค์ของ Choco CRM คือต้องการสร้างฐานลูกค้าประจำให้กับร้านค้า SMEs โดยจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเกิดการกลับมาใช้ซ้ำมากขึ้นในธุรกิจนั้นๆ ระบบของ Choco CRM มี 3 ช่องทางหลักในการสื่อสารกับ End-Users คือบัตรสมาชิก เบอร์โทรศัพท์ และแอพพลิเคชั่น โดยสามารถทำการสะสมแต้ม ซื้อคูปอง ซื้อแพคเกจ ฯลฯ ผ่านหน้าร้านได้ ส่วนร้านค้าก็จะมีเครื่องมือในการเก็บฐานข้อมูลลูกค้าและจัดการโปรโมชั่นต่างๆ การเก็บข้อมูลของลูกค้าถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้ผู้ประกอบการรู้ว่าลูกค้าซื้อสินค้าใดไป อายุเท่าไร เป็นลูกค้าประจำ หรือบางรายอาจจะเคยเป็นลูกค้าประจำแต่หายไป โดยที่ Data Analytics ของ Choco CRM จะประมวลผลให้กลุ่มธุรกิจ SMEs เข้าใจได้ง่าย ทั้งยังมีการส่ง SMS อีเมล และข่าวสารผ่านแอพพลิเคชั่นกลับไปยัง End-Users เพื่อการทำโปรโมชั่นตามพฤติกรรม (Targeted Promotion) ที่จะกระตุ้นให้เกิดการกลับมาใช้บริการซ้ำ