นายยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ การบริหารกลาง บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) หรือ เอสซีจี เปิดเผยว่า บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ร่วมมือกับเอสซีจี ยกระดับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง เพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนครอบคลุมเครือข่าย Supply Chain ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยเปิดตัว B2P (Blockchain Solution for Procure-to-Pay) แพลตฟอร์มจัดซื้อจัดจ้างครบวงจรบน R3 Blockchain ครั้งแรกของโลก ซึ่งได้นำร่องศึกษา พัฒนาโดยเริ่มใช้จริงกับเครือข่าย Supply Chain บางกลุ่มธุรกิจของเอสซีจี ตั้งแต่กลางเดือนส.ค.61 ก่อนขยายผลครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจต่อไป
นอกจากนี้จะผลักดัน B2P เป็นต้นแบบของการพัฒนาโซลูชั่นอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการด้าน Supply Chain ทั้งระบบ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรภาคเอกชนของธนาคารไทยพาณิชย์ในอนาคต
ความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นการนำเทคโนโลยี Blockchain จาก R3 มาใช้เป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มสำหรับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง (Procurement) กับคู่ค้าอย่างครบวงจร ซึ่งเดิมมีขั้นตอนการตรวจสอบที่ต้องใช้เวลา แรงงานคน เอกสารที่เกี่ยวข้องมากมาย รวมถึงเชื้อเพลิงในการขนส่งเอกสารต้นฉบับและสำเนาไปมา ทั้งของฝั่งผู้ซื้อ ผู้ขาย และคู่ค้าทางธุรกิจอื่น ๆ ด้วยความเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้เครือข่าย Supply chain ของเอสซีจีตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้รับความสะดวกสบาย มีความปลอดภัยและโปร่งใสของกระบวนการ และเป็นโอกาสต่อยอดไปสู่กระบวนการทำงานอื่น ๆ ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับอุตสาหกรรมของไทยให้ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 โดยเบื้องต้นความร่วมมือดังกล่าว ได้เริ่มทดลองใช้กับ Supply chain บางกลุ่มธุรกิจแล้ว ก่อนขยายผลครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจของเอสซีจีต่อไป
"การร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ จะทำให้เอสซีจีสามารถเชื่อมโยงนวัตกรรมใหม่ ๆ และเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีศักยภาพสูง ทำให้ข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจแบบเดิมหายไป พร้อมช่วยเสริมรากฐานระยะยาวให้เอสซีจีเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต"นายยุทธนา กล่าว
นายอรพงศ์ เทียนเงิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้รับความเชื่อมั่นจากเอสซีจี องค์กรธุรกิจชั้นนำในระดับภูมิภาค โดยมองเห็นศักยภาพและความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีของดิจิทัล เวนเจอร์ส ให้มีโอกาสในการศึกษา ทดลอง และพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน วันนี้จึงร่วมกันเปิดตัว B2P ดิจิทัลแพลตฟอร์มการจัดซื้อจัดจ้างบนเทคโนโลยี R3 Blockchain และได้เริ่มทดสอบการใช้งานจริงร่วมกับเอสซีจีเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยโซลูชั่น B2P ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นในการสั่งซื้อสินค้า จนถึงขั้นตอนสุดท้ายในการชำระค่าสินค้าผ่านธนาคาร ทั้งนี้ยังเป็นการขานรับกับนโยบายระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ที่รัฐบาลกำลังมุ่งขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นในทุกภาคส่วน
ด้านนายไพศาล เกียรติธนานันท์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายเทคโนโลยีและนวัตกรรม บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แพลตฟอร์ม B2P นี้ ได้นำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามายกระดับกระบวนการจัดซื้อแบบเดิม ด้วยคุณสมบัติของเทคโนโลยีในเรื่องความปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบได้ของข้อมูล โดยระบบจะเปิดให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง เห็นธุรกรรมในแต่ละขั้นตอนไปพร้อมๆ กัน อีกทั้งระบบจะช่วยตรวจสอบเอกสารต่างๆ อาทิ ใบสั่งซื้อ ใบรับของ และใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ ทำให้กระบวนการทั้งหมดเกิดประสิทธิภาพและสามารถลดการใช้ทรัพยากรได้อย่างมีนัยสำคัญ
ด้านการออกแบบ Interface บนแพลตฟอร์ม B2P นั้น ได้ออกแบบภายใต้แนวคิด Humanized Interface & Experience Design ที่สอดรับกับความต้องการของผู้ใช้งาน ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดี ง่ายต่อการใช้งานในทุกฟังก์ชั่นอย่างแท้จริง นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการจัดซื้อจัดจ้างที่ทาง ดิจิทัล เวนเจอร์ส และเอสซีจีกำลังสร้างขึ้น โดยมีเอคเซนเชอร์ ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี Blockchain ในระดับสากลเป็นผู้ร่วมพัฒนาและพร้อมสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมร่วมกับ ดิจิทัล เวนเจอร์ส อย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่ได้นำแพลตฟอร์ม B2P มาเริ่มทดลองใช้กับบางกลุ่มธุรกิจของเอสซีจี เป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน พบว่า กระบวนการจัดซื้อรูปแบบใหม่นี้ช่วยให้การดำเนินงานในแต่ละธุรกรรมรวดเร็วขึ้น โดยสามารถประหยัดทรัพยากรตลอดกระบวนการได้กว่า 50% นอกจากนี้ เมื่อแต่ละรายการได้รับการอนุมัติ คู่ค้าของเอสซีจีจะได้รับการชำระเงินผ่านช่องทางการโอนเงินตามวันที่กำหนดชำระเงินทันที ในขณะเดียวกัน ยังได้รับประโยชน์จากความรวดเร็วในการขอกู้ยืมเงินจากธนาคารด้วยการนำใบแจ้งหนี้ไปค้ำประกัน (Invoice Financing) ซึ่งสามารถแจ้งความจำนงผ่านระบบได้ทันที ในขณะเดียวกัน ธนาคารจะสามารถดำเนินการพิจารณาอนุมัติได้รวดเร็วยิ่งขึ้น จากการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ผ่านระบบนี้ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เราคาดหวังว่าแพลตฟอร์ม B2P จะช่วยให้เอสซีจีและคู่ค้าประหยัดทรัพยากรต่างๆ ได้ตลอดทั้งกระบวนการ อาทิ จำนวนกระดาษ ความรวดเร็ว กระทั่งส่งผลให้มีต้นทุนทางธุรกิจที่ลดลง และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อแพลตฟอร์มนี้ได้ถูกขยายขอบเขตการใช้งานสู่ทุกหน่วยงานในเอสซีจี
"การพัฒนาแพลตฟอร์ม B2P ในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของดิจิทัล เวนเจอร์ส ที่มุ่งมั่นศึกษาเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้งและต่อเนื่อง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางการเงินของประเทศ โดยครั้งนี้ได้นำเทคโนโลยี Blockchain มาประยุกต์ใช้กับบริการทางการเงิน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กรธุรกิจภาคเอกชนที่มีเครือข่าย Supply Chain จำนวนมาก และในอนาคตจะผลักดันให้ B2P ผนวกเป็นหนึ่งเดียวกับระบบนิเวศทางธุรกิจ และเปิดให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป เป็นการช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้กับภาพรวมของอุตสาหกรรม"นายไพศาล กล่าว