นางสาวกมลกาญจน์ คงคาทอง ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์องค์กร บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปี 61 จะเติบโตเกินเป้าหมายที่วางไว้ 15% หลังคาดfว่าไตรมาสที่ 3/61 เติบโตดีกว่าไตรมาสก่อนจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) มูลค่ารวม 3.6 พันล้านบาท โดยคาดว่าครึ่งหลังของปีนี้จะรับรู้เป็นรายได้ 50% หรือราว 1.8 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาสถัดไป
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนปรับเพิ่มค่าเช่าคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าสำหรับอุตสาหกรรมสำหรับลูกค้าใหม่ 2-3% ตามการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่วนลูกค้ารายเดิมยังต้องรอให้หมดสัญญาเช่าก่อนจึงจะสามารถปรับเพิ่มค่าเช่าได้ จากปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่เช่ารวม 2.7 ล้านตารางเมตร โดยมีกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ปัจจุบันเริ่มมีลูกค้าจากกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (S-curve) เข้ามาใช้บริการเพิ่มเติมแล้ว
นอกจากนี้บริษัทเตรียมสรุปงบลงทุนธุรกิจ Data Center ในช่วงปลายปี 61 ซึ่งจำนวนไม่ต่ำกว่า 1,000 rack ซึ่งคาดว่าจะตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 10-15 ไร่ ในกรุงเทพ สำหรับงบลงทุนคาดว่าจะมาจากกระแสเงินสดที่มีอยู่ราว 3 พันล้านบาท ซึ่งมองว่ายังไม่จำเป็นต้องกู้เงินจากสถาบันการเงินหากยังไม่มีโอกาสใหม่ ๆ ในการลงทุน
สำหรับประเด็นการเลือกตั้งที่มีความชัดเจนมากขึ้น มองว่าเป็น sentiment ที่ดีของตลาด ซึ่งคาดว่านักลงทุนต่างชาติจะมีความต้องการกลับเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น อย่างไรก็ดี ลูกค้าของบริษัทที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาก็มีความคาดหวังในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งหากภาพรวมการเลือกตั้งชัดเจนจะเป็นปัจจัยบวกให้กับบริษัท
นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ TICON กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโครงการในทำเลยุทธศาสตร์ของภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์รวมกว่า 50 แห่งทั่วประเทศและมีที่ดินพร้อมพัฒนาในเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) กว่า 1.5 ล้านตารางเมตร ทั้งนี้ไทคอนยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าจำนวน 71% เพิ่มขึ้นจาก 68% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยลูกค้ามากกว่า 85% ยังคงเป็นบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น เยอรมัน และสิงคโปร์ ที่ประกอบธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 61 กลุ่ม TICON มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,704 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 676 ล้านบาท หรือเติบโต 66% และมีกำไรสุทธิ 328 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 188 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 134% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 60 สะท้อนความสามารถในการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีรายได้หลักจากการให้เช่าพื้นที่และบริการจำนวน 770 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดชลบุรีให้แก่บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ต้องการขยายพื้นที่ประกอบการ และมีรายได้ค่าบริหารจัดการจากบริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารกองทรัสต์ TREIT เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการดำเนินงานตามแผนโรดแมป 3 ปี มุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรภายใต้กลยุทธ์ Total Dimension"