โบรกเกอร์แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไพลอน (PYLON) หลังมองแนวโน้มกำไรในช่วงครึ่งหลังปีนี้มีทิศทางการเติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หลังจะรับรู้รายได้จากปริมาณงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ราว 1.04 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ โดยเฉพาะจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่ได้เลื่อนงานก่อสร้างมาเป็นช่วงเดือน ก.ค.
นอกจากนี้ ยังรอประมูลงานใหม่อีก 2.5 พันล้านบาท มีโอกาสได้งานราว 20-25% และยังจะมีงานประมูลออกมาใหม่เพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลังด้วย จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนการลงทุนนอกเหนือจากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่อยู่ในระดับที่ดี 3-4% และราคาหุ้นที่ยังมี Upside
ปิดเช้าราคาหุ้น PYLON อยู่ที่ 7.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 3.70% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย เพิ่มขึ้น 1.63%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
เคที ซีมิโก้ ซื้อ 8.70
บัวหลวง ซื้อ 8.60
เอเชีย เวลท์ ซื้อ 7.50
ทิสโก้ ซื้อ 8.75
นางวชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการของ PYLON ช่วงครึ่งหลังปีนี้มีทิศทางที่ดี คาดว่าจะสามารถทำกำไรต่อไตรมาสได้ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 1/61 ที่ราว 70 ล้านบาท จากการที่มี Backlog ราว 1.04 พันล้านบาท แบ่งเป็นงานภาครัฐ 33% และภาคเอกชน 67% ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามา โดยเฉพาะการเริ่มก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองก็จะรับรู้เป็นรายได้ส่วนใหญ่ในปีนี้ ส่วนงานภาคเอกชนคาดว่าสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้
นอกจากนี้ ยังมองว่าธุรกิจเสาเข็มในอนาคตยังมีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้ดี จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้งานก่อสร้างภาครัฐและเอกชนออกมามากขึ้น ปัจจุบัน PYLON มีงานรอประมูลจากภาคเอกชนอยู่ราว 2.5 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะได้งานราว 20-25% ของงานทั้งหมด ส่วนงานภาครัฐคาดว่าจะเริ่มทยอยเปิดเพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลังมากขึ้น เช่น ทางด้วนพระราม 3 -ดาวคะนอง, งานรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม
ด้านบล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดว่า PYLON จะมีกำไรในครึ่งหลังปีนี้จะฟื้นตัวจากครึ่งปีแรกถึง 50% จากเชื่อว่าผลประกอบการจะเร่งตัวขึ้นแบบ V-Shape ในช่วงครึ่งปีหลัง จากการส่งมอบงานตามแผนมูลค่าราว 1 พันล้านบาท จาก Backlog ที่มีอยู่ 1.04 พันล้านบาท นอกจากนี้ PYLON ยังมีโอกาสได้รับงานเอกชนขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างประมูลงานมูลค่ารวม 2.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นงานเอกชนขนาดใหญ่ 2 งาน มูลค่างานละ 300-400 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้รับงานทั้ง 2 งานภายในสิ้นปีนี้
การส่งมอบงานจาก Backlog ที่มีจะส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization rate) ปรับตัวขึ้นสูงกว่า 90% จากเดินเครื่อง 23 ชุด จากทั้งหมด 25 ชุด โดยงานใหญ่จะเป็นงานรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่ได้รับจากบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) มูลค่าราว 350 ล้านบาท (เฉพาะค่าแรง) หลังจากที่ปัจจุบันสามารถเข้าทำงานในพื้นที่ได้ตามแผน ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการกำไรของ PYLON ในปีนี้เพิ่มขึ้น 50% เป็น 257 ล้านบาท แต่นับว่ายังค่อนข้างอนุรักษ์นิยมและมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก เพราะใช้สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นในครึ่งปีหลังเพียง 26.9% และอัตรากำไรสุทธิเพียง 17.2% เทียบกับผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกที่มีรายได้น้อย และสัดส่วนงานมาร์จิ้นสูงน้อยกว่าที่ PLYON ทำได้ 24.7% และ 16.2% สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ ตามลำดับ
บทวิเคราะห์บล.เคที ซีมิโก้ ระบุว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของ PYLON ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะสดใสมาก โดยคาดว่ากำไรจะเติบโต 390% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 39% จากช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จากการรับรู้รายได้งานรถไฟฟ้าสีเหลืองและโครงการเอกชน ช่วยผลักดันให้กำไรปี 61-62 เติบโต 141% และ 22% ตามปริมาณงานในมือที่แข็งแรง สามารถรองรับการรับรู้รายได้เกือบ 3 ไตรมาส
ขณะเดียวกัน PYLON ยังมีความน่าสนใจจากฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นมิ.ย.61 มีเงินสดในมือ 0.42 บาท/หุ้น และยังให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 3-4% ต่อปี ตลอดจนราคาหุ้นยังมี Upside จากราคาเป้าหมายที่ 8.70 บาท