นางสาวอัญชลี สืบจันทศิริ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม (UPOIC) กล่าวว่า บริษัทคาดปริมาณการขายผลผลิตปาล์มปีนี้จะเติบโต 10% โดยครึ่งปีแรกมีการเติบโตอยู่ที่ 20% เป็นไปตามปริมาณผลผลิตปาล์มที่ดีขึ้น ส่งผลทำให้ต้นทุนของบริษัทปรับตัวลดลง และยอดขายเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทได้มีการบริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ที่จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ทำให้มีการชะลอการซื้อวัตถุดิบเข้าเพิ่ม ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทน่าจะปรับตัวขึ้นได้อีก จากครึ่งปีแรกมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25.67% ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 10.59%
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าครึ่งหลังของปีนี้ปริมาณการขายผลผลิตปาล์มน่าจะลดลงจากครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงของโลว์ซีซั่นของธุรกิจ ขณะที่ในครึ่งปีแรกมีปริมาณขายผลผลิตปาล์มเติบโตสูงถึง 54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับการล้มปาล์มแล้วปลูกใหม่ หรือ Replanting ที่บริษัทมีการดำเนินการไปแล้วในปี 58 ซึ่งในปีนี้จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตปาล์มได้ราว 2% ของจำนวนที่ปลูกไป จากนั้นในปี 62 คาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 10% และในปี 63 จะเก็บผลผลิตได้ราว 20% ซึ่งจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกๆปีเฉลี่ยปีละ 10% ส่งผลทำให้ต้นทุนของบริษ้ทปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่ปลูกปาล์มราว 2.5 หมื่นไร่ แบ่งเป็น ที่ดินของบริษัท 40% และพื้นที่ที่บริษัทเช่าเพื่อปลูกปาล์ม 20% และสวนปาล์มสัมปทาน 40%
ส่วนการต่ออายุสัมปทานสวนปาล์ม อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ปัจจุบันมีการต่ออายุสัมปทานแล้วจำนวน 4 พันไร่ จากทั้งหมด 8 พันไร่ และอยู่ระหว่างต่ออายุสัมปทานที่สวนปาล์มชัยบุรี กรมป่าไม้ โดยระหว่างนี้บริษัทได้เข้าไปดำเนินการเก็บปาล์มด้วยการจ่ายค่าภาคหลวงให้กับกรมป่าไม้ ทำให้พื้นที่ปลูกปาล์มลดลงจาก 1.3 หมื่นไร่ เป็น 6.5 พันไร่