นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเป้าหมายแผนการดำเนินงาน 5 ปี (ปี 59-63) ใหม่ คาดว่าจะทำแผนแล้วเสร็จในปี 62 เนื่องจากหลายปัจจัยมีความเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะความชัดเจนการเลือกตั้งและการสนับสนุนการลงทุนในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ผลักดันความเชื่อมั่นการลงทุน เรียกการลงทุนจากต่างชาติเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะปัจจุบันมีผู้ประกอบการจากประเทศจีน และญี่ปุ่น ที่เข้ามาเยี่ยมชมพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าหมายที่จะมีสัดส่วนรายได้จากรายได้ประจำ (recurring income) เป็น 50% ตามแผนเดิมที่วางไว้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากธูรกิจนิคมอุตสาหกรรม 30% ธุรกิจโลจิสติกส์ 30% และธุรกิจโรงไฟฟ้าจากบมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) 30% ส่วนที่เหลือมาจากดิจิทัลแพลตฟอร์ม
สำหรับภาพรวมรายได้ปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตที่ 20% จากปีก่อนที่ 1.24 หมื่นล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังภาพรวมธุรกิจมีการปรับตัวคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และ ธุรกิจพัฒนาโลจิสติกส์ เนื่องจากพื้นที่การให้บริการของบริษัทส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในโครงการ EEC ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทในการมุ่งมั่นส่งเสริมพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve)
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถขายที่ดินได้ตามแผน 1,400 ไร่ แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะมีการขายที่ดินเพียง 173 ไร่ แต่ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ราว 700 ไร่ ที่จะสามารถโอนได้ในช่วงไตรมาส 4/61 และบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าเพิ่มเติมอีกหลายราย รวมเป็นพื้นที่กว่า 4,000 ไร่ ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์ พื้นที่ให้เช่าคลังสินค้าในช่วงครึ่งปีแรกมีพื้นที่ให้เช่าแล้ว 60,001 ตารางเมตร และอยู่ระหว่างการเจรจาให้เช่าเพิ่มเติมอีกราว 200,000 ตารางเมตร ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ทั้งปีจะให้บริการพื้นที่เช่า 250,000 ตารางเมตร
"ปีนี้ผลการดำเนินงานจะเติบโตแบบปกติอยู่ แต่ในปีหน้าเราคิดว่าเราต้องมีการปรับแผนใหม่ เนื่องจากความชัดเจนในการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น และการพัฒนาพื้นที่ EEC ชัดเจน ซึ่งเห็นได้จากวานนี้หุ้นไทยบวกไปเกือบ 40 จุด ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าความเชื่อมั่นกลับมาจริงๆ และที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลาย ๆ ราย ที่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาให้ความสนใจพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทจำนวนมาก เราจึงต้องปรับแผนใหม่ใหม่รองรับจากเดิมที่เรามองว่าการเติบโตที่ 10-20% ก็ดีแล้ว แต่ปีหน้าเราจะโตมากกว่านั้น"นางสาวจรีพร กล่าว
นางสาวจรีพร กล่าวว่า ด้านการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทเตรียมแผนการขายทรัพย์สิน ให้กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (กองทรัสต์ HREIT) มูลค่า 3-4 พันล้านบาท คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายและสามารถรับรู้ รายได้ภายในไตรมาส 4/61
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรจีนผู้ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 2,000 ไร่ ให้เป็น Smart City เนื่องจากพบว่าเป็นพื้นที่มีศักยภาพและราคาสูง คาดได้ข้อสรุปชัดเจนปลายปีนี้และเริ่มลงทุนได้ปี 62 ส่วนแผนการร่วมพัฒนาที่ดินนิคมอุตสาหกรรมกับบมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ขณะนี้อยู่ตามกระบวนการ กำลังจัดซื้อที่ดินเข้าบริษัทร่วมทุนและอยู่ในระหว่างขอยื่นจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะเริ่มพัฒนาพร้อมขายได้ในปี 63