บริษัท ผลิตไฟฟ้า นวนคร จำกัด (NNEG) ประสบความสำเร็จในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่ารวม 6,400 ล้านบาท จำนวน 4 รุ่น เสนอขายนักลงทุนสถาบัน หรือนักลงทุนรายใหญ่เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยบริษัทจะระดมทุนเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเฟสที่ 2 อีก 60 เมกะวัตต์ (MW) ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินของบริษัท
NNGE ประกอบด้วยผู้ถือหุ้น 3 ฝ่าย ได้แก่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด ในเครือ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ถือหุ้น ร้อยละ 40 ,บมจ.นวนคร (NNCL) ถือหุ้นร้อยละ 30 และบมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ถือหุ้นร้อยละ 30
สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าว แบ่งเป็น หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.68 หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.00 หุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.85 และหุ้นกู้อายุ 16 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.22 โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และธนาคารทหารไทย (TMB) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ "A-" แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนหลากหลายกลุ่มเป็นอย่างดี ทั้งจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทประกันชีวิต และสหกรณ์ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและมั่นคง ตลอดจนแผนการขยายกำลังการผลิตที่ชัดเจนของบริษัท โดยเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้จะนำไปชำระเงินกู้เดิม และเพื่อสนับสนุนแผนการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัท ในเฟส 2 อีกประมาณ 60 เมกะวัตต์ และไอน้ำอีกประมาณ 10 ตัน/ชั่วโมง เพื่อรองรับลูกค้าภายในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสุทธิรวม (ทั้งเฟส 1 และ เฟส 2) ประมาณ 185 เมกะวัตต์ และขนาดกำลังการผลิตไอน้ำรวมประมาณ 40 ตัน/ชั่วโมง
นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ NNCL และกรรมการบริษัท ผลิตไฟฟ้า นวนคร จำกัด กล่าวว่า การออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นของบริษัท ผลิตไฟฟ้านวนคร จำกัด ในครั้งนี้นั้น ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในหลายกลุ่ม ด้วยชื่อเสียงและประสบการณ์ของผู้ถือหุ้นทั้ง 3 ราย ตลอดจนผลประกอบการที่โดดเด่น ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมั่นคงของบริษัท เหล่านี้ล้วนเป็นผลให้เกิดความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อบริษัท โดยการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ จะช่วยลดต้นทุนทางการเงินของบริษัท รวมทั้ง 2 โครงการได้อย่างน้อย 1% หรือประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มเสถียรภาพทางการเงินของบริษัทในระยะยาว
นายประกอบ เพียรเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ของ BAY กล่าวว่า การตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัททั้งในด้านฐานะทางการเงินและความแข็งแกร่งของผู้ถือหุ้น การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ทำให้บริษัทสามารถตรึงต้นทุนทางการเงินในอัตราที่เหมาะสมท่ามกลางสภาวะตลาดดอกเบี้ยขาขึ้น
นายรณฤทธิ์ วิระชะนัง ผู้บริหารงานตลาดทุนธนกิจ สายงานธุรกิจตลาดทุน ของ KBANK เปิดเผยว่า การออกหุ้นกู้ของ NNEG ครั้งนี้ สนับสนุนการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทยเป็นอย่างมาก ปัจจุบัน หุ้นกู้ชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นยังมีจำนวนไม่มากตลาดไทย ทำให้นักลงทุนยังไม่คุ้นเคย และยังติดประเด็นเรื่องสภาพคล่องในการลงทุน ทั้งนี้ การที่บริษัทออกหุ้นกู้หลากหลายอายุ ทำให้นักลงทุนหลายกลุ่มสามารถเข้าร่วมได้ และน่าจะทำให้หุ้นกู้ชนิดนี้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น นอกจากนี้ หุ้นกู้ชนิดทยอยชำระคืนเงินยังตอบโจทย์ของบริษัทในเรื่องการบริหารเงิน ตามลักษณะการทยอยคืนเงินต้นที่เหมาะกับ Cashflows ของบริษัท ถือเป็นความสำเร็จแบบ win-win
นายวิกรานต์ ปวโรจน์กิจ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารความสัมพันธ์ ลูกค้าบรรษัทธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ของ TMB กล่าวว่า แม้จะเผชิญสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง แต่ก็ได้รับการตอบรับและความเชื่อมั่นในผลการดำเนินงานของบริษัทจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ด้วยการจองหุ้นกู้เกินกว่าจำนวนที่กำหนด ทั้งนี้การระดมทุนจะช่วยสนับสนุนแผนการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำใน เฟส 2 ของทาง NNEG ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต