นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST เปิดเผยว่า แนวโน้มการเคลื่อนไหวของ SET Index สัปดาห์นี้ (17-21 ก.ย.) จะยังเดินหน้าขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยบวกในประเทศ รวมทั้งปัจจัยต่างประเทศที่ลดแรงกดดันลงไป มองกรอบดัชนีที่บริเวณ 1,710-1,746 จุด โดยคาดว่าแรงซื้อหุ้นในรอบนี้จะเน้นไปที่หุ้นที่มีปัจจัยบวกสนับสนุน ทั้งจากเรื่องการเลือกตั้งในประเทศ หรือหุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มดี คาดว่านักลงทุนจะเลือกเข้าลงทุนเป็นรายตัว เพราะตลาดยังขาดแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศ
สำหรับประเด็นที่สำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ คือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่คาดจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.50% เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและมองว่ายังไม่จำเป็นต้องรีบขึ้นดอกเบี้ยในขณะนี้ เนื่องจากค่าเงินบาทยังแข็งแกร่งอยู่เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ รวมไปถึงติดตามการรายงานตัวเลขยอดขายรถและตัวเลขส่งออกในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะตัวเลขการส่งออกไปประเทศสหรัฐ ที่ต้องติดตามดูว่าจะลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันหรือไม่
ส่วนปัจจัยจากการกำหนดการเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นในต้นปีหน้า และมีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นวันที่ 24 ก.พ.62 ทำให้ตลาดหุ้นไทยสามารถดึงเงินไหลเข้ามาลงทุนไหลได้ ในเรื่องการเลือกตั้งนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุน, การเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนของภาครัฐจากโครงการด้านคมนาคมไม่ต่ำกว่า 9 แสนล้านบาท รวมไปถึงการลงทุนต่าง ๆ ของภาคเอกชนและการลงทุนในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
ด้านปัจจัยจากต่างประเทศ ประเด็นสำคัญอย่างเรื่องการเจรจาการค้าสหรัฐกับจีน ช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้าลงไป และคาดว่ากำหนดการเจรจาน่าจะเกิดขึ้นภายในเดือน ก.ย. โดยผลของการเจรจาของสหรัฐฯกับจีนรอบนี้คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก เนื่องจากตลาดรับรู้ข่าวลบในระดับสูงสุดไปแล้ว เมื่อครั้งที่สหรัฐ ประกาศจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 2.67 แสนล้านเหรียญฯ ส่วนการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศอื่น ๆ ทั้งยุโรป , แคนาดา , ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ ยังไม่มีความคืบหน้า
ขณะที่ปัจจัยด้านราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับสูงจากความกังวลเกี่ยวกับพายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ ได้ส่งผลบวกต่อราคาน้ำมันในช่วงสั้น ๆ หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ปรับลดลงกว่า 5.3 ล้านบาร์เรล และจากความกังวลในเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่านที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 4 พ.ย. นี้ ซึ่งราคาน้ำมันในปัจจุบันยังเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันและปิโตรเคมี ทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มมีการเข้ามาเก็งกำไรงบไตรมาส 3 ของหุ้นในกลุ่มนี้บ้างแล้ว
ทั้งนี้ มองว่าหุ้นที่น่าสนใจของสัปดาห์นี้ คือ กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง ได้แก่ AMATA, CPALL, KBANK และ BEM ขณะที่หุ้นที่มีปัจจัยสนับสนุนอื่น ๆ ได้แก่ DTAC, GULF, ANAN, MEGA , CENTEL , EA