(เพิ่มเติม) "ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น"ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 75 ล้านหุ้นเข้า SET ใช้พัฒนา IT-ระบบธุรกิจ-บุคลากร พร้อมเพิ่มทุน บ.ย่อย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 18, 2018 10:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) ฉบับแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 14 ก.ย.61 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 75 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายในครั้ง และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บล.บัวหลวง และ บล.ธนชาต เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัทจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวให้แก่ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อย จำนวน 11.25 ล้านหุ้น ส่วนที่เหลือเสนอขายบุคคลทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน

วัตถุประสงค์ของการระดมทุนครั้งนี้เพื่อใช้ในโครงการปรับปรุงและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้แก่ โครงการพัฒนาช่องทางการขายผ่านระบบออนไลน์ (Online) โดยการลงทุนในระบบ Chat Bot คาดว่าจะใช้เงินราว 15 ล้านบาทในปี 61-63 และ การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลสำรองข้อมูลภายนอกและกู้คืนระบบ (Disaster and Recovery Site :DR Site) คาดว่าจะใช้เงินรวม 6.2 ล้านบาทในปี 62

นอกจากนั้น บริษัทยังมีโครงการพัฒนากระบวนการทางธุรกิจ โดยการลงทุนในระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) คาดว่าจะใช้เงินราว 50-80 ล้านบาทในปี 63-65 รวมทั้งเพิ่มทุนชำระแล้วในบริษัทแกน ได้แก่ บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (TQM Broker) คาดว่าจะใช้เงินในปี 62 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ

ทีคิวเอ็มฯ ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักนายหน้าประกันภัย โดยปัจจุบันบริษัทมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลัก 2 บริษัท ได้แก่ TQM Broker เพื่อดำเนินธุรกิจเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย และ TQM Life เพื่อดำเนินธุรกิจเป็นนายหน้าประกันชีวิต นอกจากนี้ ยังมีบริษัทย่อยอีก 1 บริษัท ได้แก่ Casmatt เป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และซอฟต์แวร์ และบริษัทร่วมอีก 1 บริษัท ได้แก่ TQLD เป็นผู้ให้บริการให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย

ณ วันที่ 30 มิ.ย.561 กลุ่มบริษัทมีพนักงานระดับผู้บริหาร พนักงานขาย และพนักงานระดับปฏิบัติการรวมจำนวนประมาณ 3,600 คน ไปประจำที่สำนักงานใหญ่ สาขา และศูนย์ประสานงานทั่วประเทศ จำนวน 74 สาขา และ 21 ศูนย์ประสานงาน ตามลำดับ

บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 300,000,000 บาท โดยแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และมีทุนชำระแล้วจำนวน 225,000,000 บาท โดยแบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 225,000,000 หุ้น โครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท มีกลุ่มนายอัญชลิน พรรณนิภา เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 202,700,100 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 90.1% และหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 67.5%

สำหรับผลประกอบการของบริษัทในช่วงปี 58-60 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 2,184.0 ล้านบาท 2,226.0 ล้านบาท และ 2,281.7 ล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 2.2% ต่อปี โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้า และรายได้ค่าบริการอื่นจากการเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยเป็นหลัก โดยรายได้กว่า 88.9-94.4% ของกลุ่มบริษัทมาจากการเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย

ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 140.4 ล้านบาทในปี 58 เป็น 178.2 ล้านบาทในปี 59 และเป็น 268.3 ล้านบาทในปี 60 คิดเป็นอัตราเติบโตสะสมเฉลี่ย (CAGR) ที่ 38.3% และอัตรากำไรสุทธิ 6.4% ในปี 58 เป็น 8.0% ในปี 59 และ 11.8% ในปี 60 ตามลำดับ

ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปี 61 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 1,217.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.3 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อน หรืออัตราการเติบโต 9.5% ขณะที่กำไรสุทธิ 183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.8% ณ วันที่ 30 มิ.ย.61 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,806.1 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 1,401.9 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 458.2 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองตามกฎหมายของแต่ละปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ