CPL เตรียมขยับเฟส 2 เปิดแนวรุกเจาะลูกค้าใหม่หลังทุ่มงบลงทุนยกเครื่องโรงงาน-เครื่องจักรรอรับออเดอร์เพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 18, 2018 13:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพีแอล กรุ๊ป (CPL) เปิดเผยว่า บริษัทใช้งบลงทุนและใช้ระยะเวลากับการปรับปรุงทั้งโรงงานและเครื่องจักร ซึ่งรวมถึงการติดตั้งถังฟอกหนังใหม่ เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตและออเดอร์ใหม่ที่จะเข้ามาหลังจากนี้ โดยทั้งหมดนี้ถือเป็นการปรับปรุงในเฟสแรก หลังจากนี้บริษัทจะเริ่มเดินหน้าในเฟสที่ 2 ซึ่งได้เริ่มทำควบคู่กันไปแล้ว นั่นคือ การทำตลาดของทีมขายและการตลาด ที่มุ่งเน้นรักษาฐานลูกค้าเก่า และขยายฐานลูกค้าใหม่

"จะเห็นได้ว่า เราสามารถเปิดตลาดได้มากขึ้น จากฐานเดิมที่เน้นอุตสาหกรรมรองเท้า เราก็ได้แบรนด์รองเท้า "พูม่า" (PUMA) เป็นลูกค้าใหม่ที่ CPL รับงานผลิตหนังสำเร็จรูปให้ ขณะเดียวกันเรายังได้ออเดอร์ผลิตหนังสำหรับกระเป๋าแบรนด์ไมเคิล คอรส์ (Michael Kors) จุดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการใช้หนังในอุตสาหกรรมแฟชั่น ที่ CPL มีความชำนาญนั้นยังมีอีกมาก เราจึงเชื่อว่า ด้วยระบบการผลิตที่ทันสมัยขึ้น และทีมการตลาดที่เข้มแข็งขึ้น จะทำให้ CPL จะกลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมฟอกหนังอย่างแน่นอน" นายภูวสิษฏ์ กล่าว

ปัจจุบันธุรกิจของ CPL แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ธุรกิจผลิตหนังสำเร็จรูป (Finished Leather) ธุรกิจฟอกหนัง (Tanning) แบ่งเป็นหนังวัว และหนังหมู และการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์นิรภัยส่วนบุคคล (เซฟตี้ โปรดักส์) ภายใต้แบรนด์ "แพงโกลิน" ซึ่งแบ่งเป็นการผลิตและจำหน่ายรองเท้านิรภัย และการนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันภัยอื่นๆ

ในส่วนของการผลิตหนังสำเร็จรูป (Finished Leather) ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2.5 ล้านตารางฟุตต่อเดือน ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายระยะกลางถึงระยะยาวในการขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 3.5-4.0 ตารางฟุตต่อเดือน ขณะที่ธุรกิจฟอกหนัง (Tanning) ในส่วนของหนังวัว กำลังการผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 60,000 ตัวต่อเดือน โดยกำลังการผลิตเป้าหมายอยู่ที่ 80,000 ตัวต่อเดือน ก่อนจะเพิ่มเป็น 120,000 ตัวต่อเดือน เช่นเดียวกับหนังหมู ซึ่งมีกำลังการผลิต 70,000 ตัวต่อเดือน จะเพิ่มเป็น 90,000 ตัวต่อเดือน และในส่วนของธุรกิจเซฟตี้ บริษัทมีเป้าหมายสร้างการเติบโตให้ได้ปีละ 5-10%

"ต้องยอมรับว่า อุตสาหกรรมฟอกหนังซบเซากว่าที่เราคิดไว้ ดังนั้น เราจึงใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการปรับปรุงทุกอย่างเพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับมาของวัฏจักรธุรกิจ ที่ใกล้จะกลับมาแล้ว ขณะเดียวกัน ความซบเซาที่เกิดขึ้นยาวนานกว่าที่ประเมินไว้ ก็ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ แตกต่างจาก CPL ที่ยังมีฐานะการเงินที่เข้มแข็ง และที่ผ่านมาเราบริหารจัดการโดยกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ พร้อมๆ ไปกับความพยายามสร้างการเติบโตไปในธุรกิจที่หลากหลาย โดยเฉพาะการผลิตหนังหมูที่ตลาดมีความต้องการสูงขึ้น รวมถึงสินค้าเซฟตี้ที่ยังเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น จำนวนผู้ประกอบการที่น้อยลง ขณะที่ความต้องการใช้หนังฟอกยังมีอยู่อีกมาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของCPL ในอนาคต" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPL กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ