นายชนิต สุวรรณพรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า บริษัทยอมรับว่ากำไรปีนี้อาจจะต่ำกว่าปีก่อนที่ มีกำไร112.47 ล้านบาท หลังจากได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงในช่วงต้นปี แม้ว่าบริษัทจะมีการแก้ไขปรับสูตรน้ำใหม่ตั้งแต่ช่วงปลายปี 60 ที่ผ่านมา แต่ต้องใช้ระยะเวลาถึง 7 เดือน
นอกจากนี้ในแง่ของรายได้ปีนี้จะพลาดเป้าหมายที่วางไว้จะเติบโต 10-15% เหลือใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 1,289.49 ล้านบาท โดยบริษัทได้รับผลกระทบจากการหยุดจำหน่าย Zenya ในประเทศกัมพูชา เนื่องจากมีการแข่งขันทางด้านการตลาดสูงมาก ทำให้ต้นลดราคาขายมาเหลือที่กว่า 100 บาทต่อลัง จากเดิมกว่า 300 บาทต่อลัง โดยบริษัทอยู่ระหว่างแก้ปัญหาก่อนที่จะกลับเข้าไปจำหน่ายอีกครั้งในปลายปี 61-ต้นปี 62
อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทได้แก้ปัญหาเกี่ยวกับภาษีน้ำตาลแล้วเสร็จ และบริษัทได้เน้นการขยายสินค้าในกลุ่ม Character ที่ในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดถึงกว่า 1 หมื่นล้านบาท และยังสามารถขยายตลาดไปได้อีกถึง 7 ประเทศ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม ไทย มาเลย์เซีย และสิงคโปร์ ที่บริษัทมีใบอนุญาตในการขยายไปได้
"ภาพรวมผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทสามารถแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภาษีน้ำตาลได้เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทได้ทำการพัฒนาปรับสูตรเครื่องดื่มใหม่ที่ใช้น้ำตาลน้อยลง เพื่อลดภาระภาษีน้ำตาล ส่วนธุรกิจตัวแทนลิขสิทธิ์ Rilakkuma ในครึ่งปีแรกได้รับการตอบรับที่ดีมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น ปัจจุบันเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่อง และมีแผนที่จะจับมือกับพันธมิตรรายใหม่มากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง"นายชนิต กล่าว
ในไตรมาส 3/61 บริษัทฯได้ทยอยออกสินค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยตามแผนในกลุ่มเครื่องดื่มเย็น เช่น เครื่องดื่มรสโอเลี้ยงเจ และในไตรมาส 4/61 จะกลับมาวางขายเครื่องดื่มช็อคโกแกลต Hershey’s อีกครั้ง รวมถึงการมีสินค้าใหม่ในกลุ่มเบเกอรี่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนจะขยายช่องทางใหม่ๆ ในการจำหน่ายสินค้า รวมถึงการหาพันธมิตรมากขึ้น เพื่อจะช่วยให้ผลประกอบการมีแนวโน้มที่เติบโตได้ต่อเนื่อง
ส่วนแผนการขยายตลาดในธุรกิจเครื่องดื่ม ภายหลังจากเซ็น MOU ร่วมกับ A&W เพื่อเป็นพันธมิตรทางการค้าในระยะยาว ความคืบหน้าล่าสุด TACC ได้ส่งเครื่องดื่มในกลุ่มเครื่องดื่มไม่อัดลม (Non Carbonated Drink) ทั้งชนิดร้อนและเย็นเข้า A&W โดยปัจจุบันบริษัทสาขาแรกที่รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีเพชรบุรีเมื่อช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายจะขยายเข้า A&W ให้ครบทุกสาขา หรือที่ราว 50 สาขา
นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการเจรจากับกับผู้ประกอบการร้านอาหารหลายรายใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อที่จะส่งเครื่องดื่มในกลุ่มเครื่องดื่มไม่อัดลม ในรูปแบบเดียวกับ A&W โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปี 61-ต้นปี 62
ส่วนภาพรวมช่วงครึ่งหลังปีนี้ มั่นใจว่าอัตรากำไรสุทธิจะแตะระดับ 30% จากครึ่งปีแรกของปี 2561 อยู่ระดับ 28% เนื่องจากธุรกิจตัวแทนลิขสิทธิ์ และสินค้าใหม่ มีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้ความสามารถทำกำไรได้ดีขึ้นต่อเนื่อง
อนึ่ง ผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 61 บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 611.88 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 37.17 ล้านบาท ขณะที่งวดไตรมาส 2/61 มีรายได้รวมอยู่ที่ 328.59 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 21.64 ล้านบาท