บมจ.มิลล์คอนสตีล อินดัสทรีส์ (MILL)คาดอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ในปี 51 เพิ่มขึ้นเป็น 5% จาก 2% ในปี 50 แม้ว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นใกล้เคียงกันที่ 9% เนื่องจากบริษัทได้เพิ่มการใช้กำลังการผลิต เป็น 50% จาก 40% ในปี 50 โดยกำลังการผลิตของบริษัททั้งหมดมี 5 แสนตันต่อปี จึงส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลง
MILL คาดว่ารายได้ในปี 51 จะเพิ่มขึ้นราว 15% หรือเพิ่มเป็นประมาณ 4 พันล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท เติบโต 25% จากปี 49 ที่มีรายได้ 2.7 พันล้านบาท
"ปีนี้เรามีเม็ดเงินเข้ามาเพิ่มทำให้เรามีเงินทุนซื้อวัตถุดิบได้ราคาดี มีสต็อกอยู่กว่า 1 พันล้านบาท และเราใช้กำลังการผลิตพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง เชื่อว่า Net Profit Margin เพิ่มเป็น 5% ก็ทำให้กำไรปีหน้าจะดีขึ้นมาก"นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการ MILL กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายสิทธิชัย กล่าวว่า บริษัทได้ศึกษาแผนขยายธุรกิจ โดยพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะขยายไปทั้งธุรกิจต้นน้ำ และ ขยายการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับเหล็ก ประกอบกับ ดำเนินหาพันธมิตรทางธุรกิจควบคู่ไปด้วย ซึ่งขณะนี้ได้มีการเจรจากับภาคธุรกิจที่น่าสนใจ 4-5 ราย ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยอาจสรุปในปีหน้า และอาจเลือกมาเป็นพันธมิตรมากกว่า 1 ราย
"เราอยู่ในช่วงศึกษาเจรจากับพันธมิตร 4-5 ราย พันธมิตรที่เข้ามาจะช่วยธุรกิจเรา ยังไม่รู้จะจบเมื่อไหร่ แต่อาจสรุปได้ในปีหน้า" นายสิทธิชัย กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทก็ยังคงมีแผนจะย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์(SET) ซึ่งแผนงานดังกล่าวจะนำเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาภายในเดือนมี.ค.หรือ เม.ย. 51 เพราะ MILL อยู่ในธุรกิจเหล็ก ยังต้องการใช้เงินทุนจำนวนมาก
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--