นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานเสวนา "สานพลังพันธมิตร เพื่อไทยก้าวไกลอย่างยั่งยืน" จัดโดย บมจ.การบินไทย (THAI) ว่า ได้ให้ทางการบินไทยไปจัดทำแผนยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือน ทั้งแผนการจัดซื้อเครื่องบิน การวางเส้นทางการบิน และแผนงานเพิ่มรายได้ให้กับการบินไทย ซึ่งที่ผ่านมายังไม่พอใจกับรายได้ที่มีอยู่ ซึ่งเรื่องขาดทุนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ต้องมีการวางยุทธศาตร์ระยะยาว และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่และยังมีความหวังที่จะเห็นการบินไทยเป็นสายการบินชั้นนำ
"เรื่องหารายได้เป็นสิ่งสำคัญ ผมไม่พอใจกับรายได้ที่มีอยู่ เราต้องดูว่าเพิ่มรายได้ได้อย่างไร จะเพื่มรายได้ เครื่องบินคุณต้องดี ทำอย่างไรวาง routing ให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อตัดสินใจว่าจะซื้อเครื่องบินแบบไหน...ต้องการคำตอบชัดเจน อย่างช้าต้องการคำตอบก่อนสิ้นปีนี้ ไปทำการบ้านมา"นายสมคิด กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานในวันนี้ถือเป็นการสื่อสารให้กับพนักงานการบินไทยได้รับรู้ทิศทางและยุทธศาสตร์ว่าจะเดินต่อไปอย่างไร ซึ่งสิ่งสำคัญต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนในองค์กร ซึ่งจำเป็นต้องมีการพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานต้องไปดูในรายละเอียดในทุกเรื่อง และทำออกมาให้ดี โดยไม่มีการรังแกใคร แต่ต้องแข่งขันกับสายการบินอื่นให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะลำบาก
อีกทั้งยังฝากให้การบินไทยมีการฝึกอบรมพนักงาน ซึ่งเชื่อว่างานด้านบริการไม่แพ้สายการบินใดๆ พร้อมทั้งเรื่องคุณภาพอาหารต้องได้คุณภาพด้วย
"การ re-process ภายใน 3 เดือนนี้ผมต้องการคำตอบ อาหารทำอย่างไรให้อร่อย ที่เขาคุยว่าดีแบบเจ้ไฝ ไม่มีไฝก็ได้ ให้มันอร่อย ซุปต้องร้อน คือพูดแล้ว ผมทำจริงๆ ไม่มีการพูดเล่นๆ เวลา 2-3 เดือนก่อนเลือกตั้งมีเวลาเหลือเฟือในการโยกย้าย ทำให้ได้อย่างที่พูดมา"นายสมคิด กล่าว
นอกจากนี้ นายสมคิด ได้มอบหมายให้การบินไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยว จึงฝากให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปจัดทำแผนให้เกิดการเชื่อมโยงทางการบินระหว่างเหมืองหลักไปสู่เมืองรอง เพื่ออำนวยให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน โดยมีวงเงินที่จะช่วยในเรื่องการเชื่อมเส้นทางการบินถึง 3,000 ล้านบาท และมอบหมายให้การบินไทยเร่งหาพันธมิตรทั้งจากในและต่างประเทศมาเชื่อมโยงเส้นทางการบิน และเพื่อการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว
นายสมคิด ยังฝากให้การบินไทยหาแนวทางและใช้โอกาสที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอาเซียนซัมมิทในปีหน้า มาโปรโมตให้กลุ่มประเทศอาเซียนได้รู้จักสายการบินไทยมากขึ้นด้วย เพื่อสะท้อนให้เห็นภาพว่า สายการบินไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคอาเซียน
อนึ่ง งานเสวนา "สานพลังพันธมิตร เพื่อไทยก้าวไกลอย่างยั่งยืน" ยังมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เข้าร่วมงาน โดยมีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการ THAI พร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้บริหาร THAI รวมทั้งผู้บริหารสูงสุดของ 4 รัฐวิสาหกิจชั้นนำของประเทศไทย ร่วมเสวนา ได้แก่ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) และนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI
นายเอกนิติ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดเสวนาวันนี้ เกิดขึ้นในโอกาสที่นายสมคิด มาตรวจเยี่ยมและให้นโยบายในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตามแผนการฟื้นฟูบริษัท ซึ่งภาครัฐมีความมั่นใจในองค์กร และเชื่อมั่นในศักยภาพของบุคลากรของบริษัทที่จะสามารถพลิกฟื้นให้การบินไทยผ่านพ้นวิกฤตและกลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิมได้ โดยให้ความสำคัญและพร้อมประกาศเจตนารมณ์ ในการขับเคลื่อนบริษัทด้วยแผนฟื้นฟูตามยุทธศาสตร์ และประกาศความร่วมมือของพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งทางด้านการบินและการท่องเที่ยว รวมถึงธุรกิจที่มีส่วนสนับสนุนซึ่งกันและกัน มาร่วมสานพลังกับบริษัท
ทั้งนี้ ด้านธุรกิจการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศ โดยเฉพาะยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง จะมีส่วนสนับสนุนธุรกิจการบิน รวมทั้งสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับทุกภาคส่วนในประเทศ ซึ่งการบินไทยสามารถนำนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าสู่เมืองรอง โดย ททท. สามารถสนับสนุนทางด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์
ด้านอุตสาหกรรมการบิน ในส่วนของการบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ ที่มีเที่ยวบินเข้า-ออก ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมากที่สุด ดังนั้น หากได้ผนึกกำลังร่วมกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทยฯ จะเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฮับในการขนส่งทางอากาศที่แข็งแกร่งในภูมิภาคนี้
ด้านข้อมูลข่าวสารในยุคดิจิทัล เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 รัฐวิสาหกิจชั้นนำต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน ในเรื่อง Big Data โดย THAI ททท. ทอท. และ ธ.กรุงไทย ร่วมพัฒนาข้อมูลใน Segment ของนักท่องเที่ยว และพัฒนาด้าน Payment Gateway ในโครงการ "เป๋าตุง" ขายคล่องรับเงินสะดวกทุกธนาคาร แจ้งเตือนเมื่อเงินเข้า ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการขายให้การบินไทยได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
ด้านนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI เปิดเผยเพิ่มเติมว่า วันนี้ THAI ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งจากภาครัฐและพันธมิตรรัฐวิสาหกิจ จึงขอให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) อาทิ ลูกค้า ผู้ถือหุ้น นักลงทุน คู่ค้า มีความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะเดินหน้าตามแผนฟื้นฟูให้สำเร็จ โดยขอให้เข้าใจและให้การสนับสนุน โดยเฉพาะผู้บริหารและพนักงาน THAI ที่จะต้องร่วมแรงร่วมใจกันขับเคลื่อนเพื่อพลิกฟื้นบริษัทให้เป็นสายการบินแห่งชาติที่ยิ่งใหญ่และเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน
ทั้งนี้ การจัดเสวนาสานพลังพันธมิตร เพื่อไทยก้าวไกลอย่างยั่งยืน ในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมพลังระหว่างรัฐวิสาหกิจของไทย ซึ่งการบินไทยคาดว่าจะขยายความร่วมมือไปยังหน่วยงานพันธมิตรในภาคส่วนอื่นๆ อีกในอนาคต เพื่อให้อุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวของไทย มีศักยภาพและช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจไทยได้อย่างยั่งยืนต่อไป