โบรกฯเชียร์"ซื้อ"AMATA มองกำไร H2/61 โตเด่นจาก Backlog-รายได้ประจำหนุน,รับผลบวกลงทุน EEC เพิ่มยอดขายที่ดิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 21, 2018 14:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) หลังมองกำไรในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะเติบโตโดดเด่น จากยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่ในมือราว 1.85 พันล้านบาทซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามา ผนวกกับรายได้ประจำ (Recurring Income) จากการขายสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและไอน้ำที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกเหนือจากยอดขายที่ดินที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ตามช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจทำให้ AMATA ยังมั่นใจว่าจะทำยอดขายทั้งปีนี้ได้ตามเป้า 925 ไร่ แม้ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้จะทำได้ไม่ถึง 200 ไร่ก็ตาม

ขณะเดียวกันการที่ภาครัฐเร่งผลักดันการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หลังจากที่พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ได้เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อกลางเดือน พ.ค.ทำให้ปลดล็อคความกังวลในข้อกฎหมายและสิทธิประโยชนน์ทางภาษี รวมถึงการที่ภาครัฐจะสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ก็จะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการเข้าไปลงทุนมากขึ้นในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ชลบุรี และอมตะ ซิตี้ ระยอง ของ AMATA

ราคาหุ้น AMATA ปิดเที่ยงวันนี้ 22.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท (+0.88) ขณะที่ SET +0.52%

          โบรกเกอร์                    คำแนะนำ                ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ฟินันเซีย  ไซรัส                   ซื้อ                         30.00
          เอเซีย พลัส                      ซื้อ                         35.70
          เคจีไอ (ประเทศไทย)              ซื้อ                         30.00
          หยวนต้า (ประเทศไทย)             ซื้อ                         25.00
          เอเชีย เวลท์                     ซื้อ                         26.00
          เคทีบี (ประเทศไทย)               ซื้อ                         24.00
          เคที ซีมิโก้                       ซื้อ                         27.70

นางสาวจิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ AMATA จะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากช่วงครึ่งแรกของปีนี้ที่ทำกำไรสุทธิได้ 601 ล้านบาท หรือคิดเป็นราว 35% จากเป้าหมายกำไรสุทธิปี 61 ที่ระดับ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากปีที่แล้ว เนื่องจากช่วงฤดูการขายที่ดินส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่ง AMATA จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการที่ภาครัฐผลักดันลงทุนในพื้นที่ EEC

ทั้งนี้ AMATA ยังคงยืนยันเป้าหมายยอดขายที่ดินในปีนี้ที่ 925 ไร่ ซึ่งจะมาจากยอดขายที่ดินในไทย 800 ไร่ และเวียดนาม 125 ไร่ แม้ว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้จะทำได้ยอดขายได้เพียง 159 ไร่จากในประเทศอย่างเดียว แต่ AMATA ยังอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าอีก 6-7 รายเพื่อขายพื้นที่ 100-200 ไร่/ราย และเจรจาลูกค้าอีกเป็นสิบรายสำหรับการขายพื้นที่ระดับ 20-100 ไร่/ราย ทำให้ยังไม่น่ากังวลมากสำหรับเป้าหมายยอดขายในปีนี้

สำหรับปีนี้คาดว่า AMATA จะมีรายได้ราว 5 พันล้านบาท เติบโต 13% ซึ่งจะมาจากรายได้การโอนที่ดิน และรายได้จากการขายสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม ทั้งไฟฟ้าและไอน้ำ ซึ่งนับเป็นรายได้ประจำที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามการขยายตัวของโรงงานในนิคมฯ ขณะที่การลงทุนนิคมฯในเวียดนามยังนับว่าสร้างผลการดำเนินงานที่ดีให้ AMATA เพราะเวียดนามยังคงมีความต้องการพื้นที่นิคมฯอยู่จำนวนมาก

"ธุรกิจของ AMATA แม้ว่าจะไม่มีเรื่องของพ.ร.บ.EEC แต่ไทยก็นับว่าเป็น destination ของการลงทุน ญี่ปุ่นก็เข้ามาลงทุนบ้านเราเป็นอันดับ 1 ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ก็เข้ามาแม้ไม่มี EEC ก็เป็นที่น่าสนใจ AMATA เป็นหุ้นลงทุนมากกว่าเก็งกำไร เพราะนักลงทุนเข้ามาลงทุนในไทยเป็น 30-50 ปี การที่ไทยจะมีการเลือกตั้งก็เป็น Sentiment ที่ดีที่หุ้นขึ้นมา เพราะพอมีเลือกตั้ง รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาก็ต้องอยากจะสร้างการเติบโต การลงทุนก็ช่วยให้เกิดการขยายตัวเศรษฐกิจ"นางสาวจิตรา กล่าว

ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มกำไรของ AMATA ในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะกลับมาเติบโตโดดเด่น เพราะทุกธุรกิจมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก โดยในส่วนของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ณ สิ้นเดือน มิ.ย.61 มี Backlog รอรับรู้รายได้มากถึง 1.85 พันล้านบาท ขณะที่ธุรกิจให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปก็ขยายพื้นที่บริการมากขึ้นเป็น 1.76 แสนตารางเมตร (ตร.ม.) เพิ่มขึ้น 1.11 หมื่นตร.ม. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ก็จะช่วยผลักดันให้ความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ Recurring Income เติบโตต่อเนื่อง โดยยังคงประมาณการกำไรปี 61 ของ AMATA ไว้ระดับเดิมที่ 1.57 พันล้านบาท เติบโต 11.3% จากปีที่แล้ว

ทั้งนี้ AMATA ยังมั่นใจว่าทั้งปีนี้จะทำยอดขายที่ดินได้ตามเป้า 925 ไร่ แม้ในช่วงต้นปีจนถึงกลางเดือน ส.ค.ทำยอดขายสะสมได้เพียง 380 ไร่ โดยเป็นยอดขายในไทย 350 ไร่ และในเวียดนาม 30 ไร่ แต่เชื่อว่ายอดขายจะเร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ตามสถิติการขายที่ดินนิคมฯที่จะมีเข้ามามากในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งยังมีปัจจัยหนุนจากนโยบายการลงทุนในพื้นที่ EEC ของรัฐบาลซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายที่ดินในไทยทั้งปีนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 600 ไร่ จากปีก่อนที่ทำได้ 212 ไร่

นอกจากนี้ AMATA ยังมีแผนจะขยายการลงทุนเข้าไปในเมียนมาและลาว โดยจัดตั้งบริษัทย่อยขึ้นมาเพื่อดำเนินการขอเอกสารใบอนุญาตลงทุนพัฒนาเมืองอัจฉริยะและนิคมอุตสาหกรรม โดยใช้งบลงทุนแห่งละ 100 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำไรระยะยาวและยกระดับให้ AMATA เป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมชั้นนำของอาเซียน

ด้านบทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่าแนวโน้มกำไรปกติของ AMATA ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะเติบโต 20% จากครึ่งปีแรกมาที่ 711 ล้านบาท หลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ผนวกกับการรับรู้โรงไฟฟ้า บีกริม ระยอง5 ที่มีกำหนดเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือน ต.ค.61 และแรงขับคลื่นจาก พ.ร.บ. EEC อย่างไรก็ดีกำไรปกติปี 61 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท ลดลง 16% จากปีที่แล้ว หดตัวจากฐานที่สูง แต่เมื่อมองข้ามไปปี 62 คาดกำไรปกติที่ 1.78 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากปีนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากความชัดเจนของโครงการ EEC และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า บีกริม ระยอง3 ระยอง4 และระยอง5 เต็มปี

ทั้งนี้ มองว่า AMATA ได้ปัจจัยบวกจากการที่พ.ร.บ. EEC ที่ประกาศใช้เมื่อกลางเดือน พ.ค.61 ช่วยปลดล็อคความกังวลในข้อกฏหมายและสิทธิประโยชน์ทางภาษี รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ที่กำหนดการยื่นซองประมูล วันที่ 12 พ.ย. 61 สะท้อนความคืบหน้าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนโครงการ EEC และการเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 1/62 จะหนุนความเชื่อมั่นจากภาคเอกชนต่างชาติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ