นายปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด หรือ ซุปเปอร์ริชสีส้ม เปิดเผยว่า บริษัทยังคงแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายใน 3 ปีนี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) หลายราย แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากต้องการหาที่ปรึกษาทางการเงินที่มีความเข้าใจในธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยเงินที่ได้จากการระดมทุน ก็จะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจต่อไป
ในระหว่างนี้บริษัทจะมุ่งเน้นการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการ โดยจัดทำระบบซอฟต์แวร์ที่เข้ามาช่วยลดขั้นตอนการทำงาน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า เช่น การจองเงินสกุลต่างประเทศแบบออนไลน์ (E-booking) ผ่านทางเว็บไซต์ หรือ แอพพลิเคชั่น เพื่อให้ลูกค้าได้รับอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด ก่อนเดินทางไปรับเงินตามอัตราแลกเปลี่ยนที่แลกในขณะนั้นที่สาขาต่างๆ
และ การให้บริการในรูปแบบ SuperRich Card โดยจะร่วมกับสถาบันการเงินเพื่อจัดทำบัตรให้ลูกค้าต่างชาติ ในการแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลเงินต่างประเทศเป็นเงินบาทไทย และสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรได้โดยไม่ต้องพกเงินสด เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าต่างประเทศ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร หรือร้านค้าต่างๆ ซึ่งวิธีการ ลูกค้าสามารถเข้าไปยังสาขาและดำเนินการใส่สกุลเงินไทยเข้าไปในบัตร จากนั้นผู้ถือบัตรสามารถนำไปซื้อสินค้า หรือจับจ่ายใช้สอยได้ทันที คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในปีนี้
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนให้บริการรับชำระเงิน เพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลเงินต่างประเทศในรูปแบบกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) อีกด้วย คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้เช่นเดียวกัน และนอกจากนั้นยังมีแผนให้บริการแลกเปลี่ยนเงินในรูปแบบเงินดิจิทัล เนื่องด้วยขณะนี้เงินดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะในต่างประเทศ ซึ่งหากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีการอนุญาตให้เข้าไปจัดการเงินดิจิตอลได้มากขึ้น บริษัทก็มีความพร้อมที่จะให้บริการดังกล่าว
นายปิยะ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ากำไรสุทธิเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิที่ 60 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราในปีนี้คาดว่าจะสูงถึง 1.2 แสนล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ราว 1 แสนล้านบาท เป็นไปตามการท่องเที่ยวของไทยที่ขยายตัวถึง 10% และการบริโภคภายในประเทศที่เติบโต 14% รวมถึงบริษัทมีการขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดสาขาที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์เป็นสาขาที่ 49 และยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร สปป.ลาวเพื่อขยายสาขาไปในต่างประเทศเพิ่มเติม จากปัจจุบันซุปเปอร์ริชสีส้มมีสาขาแล้วในกัมพูชาและอังกฤษ
"จากนี้ไปเราจะเน้นการขยายสาขาขนาดเล็ก กระจายตัวในจุดที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนำเทคโนโลยีสมัยใหม่จากสาขาต้นแบบ หรือสาขาที่เซ็นทรัลเวิลด์ไปปรับใช้กับสาขาต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความรวดเร็วให้กับลูกค้า จากปัจจุบันมีการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราผ่านสาขารวมทั้งสิ้น 1 ล้านรายการต่อเดือน"นายปิยะ กล่าว