หุ้น BEM ราคาไหลลง 2.21% มาอยู่ที่ 8.85 บาท ลดลง 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 494.95 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.49 น. โดยเปิดตลาดที่ 9.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 9.00 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 8.80 บาท
ราคาหุ้น BEM ไหลลงหลังมีรายงานข่าวว่า สหภาพการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ได้นัดแต่งดำพรุ่งนี้ หลังแพ้คดีเอกชนหวั่นเป็นค่าโง่ทางด่วนภาคสอง
ขณะที่ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ กทพ.จ่ายเงินชดเชยให้ NECL (บริษัทย่อยของบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM)) 1.8 พันล้านบาท กรณี NECL ได้ก่อสร้างทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ดตามสัญญาที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้เอกชนร่วมดำเนินการ แต่กรมทางหลวงได้สร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต ซึ่งเป็นการแข่งขันกับทางด่วนฯ จึงขอให้ กทพ.จ่ายชดเชยที่ปริมาณจราจรและรายได้ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้
ทั้งนี้ มองเป็นข่าวดีกับ BEM โดยเงินชดเชย 1.8 พันล้านบาท คิดเป็น 0.12 บาท/หุ้น BEM ซึ่งไม่ได้เยอะมาก แต่ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นแรงก่อนหน้านี้คาดว่าจะมาจากการเก็งกำไรผลประกอบการ Q3/61 ที่ประเมินว่าจะแข็งแกร่ง รวมทั้งบริษัทมีโอกาสได้ต่อสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ส่วน A, B, C ที่จะหมดอายุสัมปทานปี 2563 ซึ่งตามสัญญาเดิมบริษัทสามารถเลือกต่อสัญญาได้ 2 ครั้งๆละ 10 ปี ขึ้นกับการอนุมัติของกทพ.
รายได้จากสัมปทานส่วนที่จะหมดอายุดังกล่าวคิดเป็น 59% ของรายได้รวมในช่วง YTD ถ้าได้ต่อสัมปทานก็จะทำให้ราคาพื้นฐานเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5-2.0 บาท/หุ้น (โดยให้สมมติฐานส่วนแบ่งรายได้เท่าเดิมและไม่มีการลงทุนใหญ่เพิ่มเติมใน 10 ปีข้างหน้า) ยังผลให้ราคาพื้นฐาน BEM จะเพิ่มเป็น 10.10-10.60 บาท ซึ่งมี Upside 12%-17% จากราคาปิดวันศุกร์ที่ 9.05 บาท