(เพิ่มเติม) TVD ตั้งเป้ารายได้จากการขายสินค้าผ่านช่อง"สปริงนิวส์"สัดส่วน 5% ของยอดขายรวม 3.99 พันลบ.,เจรจาช่องทีวีดิจิทัล 2-3 ราย

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 24, 2018 15:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีวี ไดเร็ค (TVD) ตั้งเป้ารายได้จากการขายสินค้าผ่านช่อง 19 ในปีนี้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของเป้าหมายยอดขายรวม 3,990 ล้านบาท หลังจากบริษัทได้ขยายการลงทุนครั้งใหญ่เข้าสู่การบริหารช่องทีวีดิจิทัลอย่างเต็มตัว โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเข้าลงทุนถือหุ้น 90.1% ในบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ในเครือ บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น(NEWS) ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาต (License) ให้ดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ดิจิทัล ช่อง 19

ทั้งนี้ บริษัทมองว่าในปัจจุบันยังคงมีผู้บริโภคที่รับชมทีวีดิจิทัลอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้การเสนอขายสินค้าทางรายการโฮมช้อปปิ้งมีผลตอบรับที่ดี ดังนั้น การขายสินค้าที่ได้ผลในยุคนี้จึงไม่สามารถพึ่งพาช่องทางทีวี ช่องทางออนไลน์หรือร้านค้า เพียงทางใดช่องทางหนึ่ง แต่ต้องรุกทุกช่องทางไปพร้อมกัน โดยการลงทุนในสปริงนิวส์ เทเลวิชั่นจะช่วยเพิ่มแต้มต่อในการดำเนินธุรกิจและช่วยเสริมประสิทธิภาพกับการเสนอขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และร้าน TV Direct Showcase ที่มีการขยายสาขามาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากดำเนินการเข้าซื้อหุ้นเป็นที่เรียบร้อย บริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาช่อง 19 ให้เป็นช่องทีวีดิจิทัลที่มีรายการนำเสนอสินค้าต่างๆ ที่หลากหลาย ควบคู่กับนำเสนอรายการข่าวสารที่มีสาระให้แก่ผู้ชม โดยวางแผนเพิ่มการนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพดีและเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจจากผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ ที่ยังขาดช่องทางเข้าถึงผู้บริโภคเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำโฮมช้อปปิ้ง พร้อมทั้งช่วยเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกันกับแผนงานทำการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์อี-คอมเมิร์ชและพันธมิตรด้านโซเชียลมีเดียชั้นนำ อาทิ Google, Shopee, Facebook, JD และ Line ที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศและสามารถกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้อย่างดี

"การที่บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นสปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายและ win-win-win ด้วยกันทั้งหมด โดย ทีวี ไดเร็ค จะมีความมั่นคงด้านการมีเวลาออกอากาศและต้นทุนการออกอากาศลดลงในระยะยาว ส่วนกลุ่มสปริงนิวส์ก็จะร่วมเป็นพันธมิตรร่วมผลิตรายการข่าวและขยับขึ้นเป็นคอนเทนท์โพรไวเดอร์เต็มรูปแบบ" นายทรงพล กล่าว

นายทรงพล กล่าวว่า ในวันที่ 23 พ.ย.61 บริษัทจะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เพื่อขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการเข้าลงทุนใน สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น โดยจะใช้เงินลงทุนจำนวน 1.08 พันล้านบาท มาจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ ที่มีอยู่จำนวน 400 ล้านบาท และวงเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ จำนวน 700 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยจ่ายเดือนละ 7.65 ล้านบาท โดยกระบวนการดังกล่าวจะแล้วเสร็จได้ในเดือน ธ.ค.นี้

ดังนั้น บริษัทจะสามารถบันทึกรายได้และกำไรของ สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น gข้ามาตั้งแต่ต้นปี 62 เป็นต้นไป ซึ่งจะอยู่งบการเงินรวม นับจากวันที่กระบวนการลงทุนแล้วเสร็จ ทำให้ TVD ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนของ สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น ที่ปัจจุบันมีผลขาดทุนสะสมอยู่ที่ 300 ล้านบาท เนื่องจากเป็นผลขาดทุนสะสมในอดีต โดยผลขาดทุนดังกล่าว ทางสปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จะเป็นผู้รับผิดชอบในการทำให้งบการดำเนินงานพลิกกลับมามีกำไร

นอกจากค่าใช้จ่ายด้านการซื้อหุ้นใน สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น แล้ว บริษัจะต้องรับผิดชอบในด้านค่าใช้จ่ายโครงข่าย ส่วนค่าใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ที่ปัจจุบันยังมีอายุสัญญาเหลืออีก 10 ปี ในส่วนนี้ทางสปริงนิวส์ เทเลวิชั่น ได้เตรียมเงินรองรับค่าใบอนุญาตไว้เรียบร้อยแล้ว จำนวน 239 ล้านบาท

"การร่วมมือกันกับทางช่องสปริงนิวส์ บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะไม่มีผลขาดทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นการหารายได้ในรูปแบบใหม่ ที่จะสามารถผลักดันธุรกิจทีวีดิจิทัลไปได้ด้วยดี โดยรูปแบบใหม่นี้จะเป็นการขายสินค้าผ่านช่องทีวีดิจิทัลที่ครอบคลุมกลุ่มคนในเมือง ซึ่งจะเห็นการเปลี่ยนรูปแบบของการขายที่จากเดิมเรามีช่องทีวีดาวเทียมจำนวน 6 ช่อง จะเจาะกลุ่มคนต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ มาสู่ระดับคนเมืองมากขึ้น ทำให้ผู้รับชมจะเห็นรูปแบบรายการใหม่ๆ คาดว่าจะเริ่มออกอากาศได้ในวันที่ 1 ม.ค.62 พร้อมจะรีแบรนด์ชื่อช่องสปริงนิวส์ในต้นปีหน้าด้วย"นายทรงพล กล่าว

บริษัทคาดว่าภายหลังจากเข้าลงทุนในสปริงนิวส์ เทเลวิชั่น และเริ่มดำเนินการจะสามารถถึงจุดคุ้มทุน หรือคืนทุนได้ภายใน 6-7 ปี โดยปี 62 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมจะเติบโต 12-15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 3.99 พันล้านบาท โดยจะมีสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องสปริงนิวส์ราว 10% และ 15% ในปี 63 หรือเพิ่มขึ้นปีละ 5%

พร้อมกันนี้บริษัทก็อยู่ระหว่างเจรจากับช่องทีวีดิจิทัลเพิ่มเติมอีกจำนวน 2-3 ราย ในการเข้าไปร่วมผลิตรายการ หรือทำรายการขายสินค้าของ TVD ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเห็นความชัดเจนได้เมื่อไร แต่อย่างไรก็ตามจะไม่ใช่ในรูปแบบการเข้าลงทุนใหญ่เหมือนกับการลงทุนในสปริงนิวส์ เทเลวิชั่น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ