นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 62 มูลค่ารวม 3-3.2 หมื่นล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะเป็นโครงการที่ร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น คือ บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด มูลค่ารวมประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท และโครงการแนวราบ 6 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่บริษัทพัฒนาเอง ซึ่งยังไม่รวมโครงการพาร์ค พร้อมพงษ์ มูลค่า 6 พันล้านบาทที่เลื่อนเปิดตัวจากไตรมาส 4/61 เป็นไตรมาส 1/62 เนื่องจากเตรียมความพร้อมไม่ทัน
สำหรับประเภทของโครงการที่บริษัทจะพัฒนาในปี 62 ยังคงเน้นกลุ่มโครงการระดับบนเป็นหลัก เนื่องจากเห็นโอกาสของกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีความต้องการซื้อต่อเนื่อง ทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงทำให้บริษัทเผชิญกับความเสี่ยงในด้านการโอนและการกู้ยืมสินเชื่อไม่มาก ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวได้ดีขึ้น ส่งผลให้กลุ่มระดับบนจะได้รับประโยชน์เป็นกลุ่มแรก จึงมีศักยภาพมากในการซื้ออสังหาริมทรัพย์
"ในสิ้นปีนี้ระดับราคาขายเฉลี่ยของโครงการที่บริษัทเปิดขายจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 6 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ 5 ล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นจากสิ้นปีก่อนที่อยู่ในระดับ 2 ล้านบาท และลูกค้าของบริษัทมีสัดส่วนการซื้อโครงการแบบจ่ายเงินสดเพิ่มขึ้นเป็น 40% ซึ่งแสดงใหมเห็นว่ากลุ่มลูกค้าของบริษัทเป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงมากขึ้น"นายพีระพงศ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาเตือนการปล่อยกู้สินเชื่อบ้านของธนาคาร และเตือนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไนการขายโครงการ เนื่องจากเกิดปัญหาผู้ซื้อโครงการแบบยกล็อตบางรายนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้สถาบันการเงินมีความเข้มงวดมากขึ้น เพื่อทำให้หนี้เสียในระบบไม่เพิ่มขึ้นมาก และไม่เกิดผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ
ในส่วนของบริษัทยืนยันว่าไม่มีการขายห้องชุดแบบยกล็อตให้กับผู้ซื้อเพียงรายเดียวเพื่อนำไปขายต่อ เนื่องจากระดับราคาขายของโครงการที่บริษัทพัฒนาไม่ไช่กลุ่มเป้าหมายของกลุ่มผู้ซื้อดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ไนกลุ่มคอนโดมิเนียมระดับราคา 1-2 ล้านบาทที่มีการซื้อยกล็อต ทำให้มีอำนาจในการต่อรองราคาซื้อกับผู้ขาย และนำไปขายต่อให้กับผู้ที่ไม่เคยลงทุนอสังหาริมทรัพย์ฯ แต่ในส่วนของบริษัทเป็นการขายให้กับเอเจนซี่นำไปขายต่อเพียงอย่างเดียว ทำให้ไม่มีผลกระทบดังกล่าวกับบริษัท
นายพีระพงศ์ กล่าวถึงผลประกอบการของ ORI ในปีนี้ว่า บริษัทมั่นใจว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ 2 หมื่นม้านบาท โดยที่คาดว่ายอดขายในไตรมาส 4/61 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี เพราะมีการเปิดโครงการขนาดใหญ่ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ PARK ORIGIN พร้อมพงษ์ มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท เริ่มขายเดือนพ.ย.61 ตั้งเป้ายอดขายถึงสิ้นปี 60% และคาดว่าจะปิดการขายได้ไนไตรมาส 1/62 พร้อมกับการเปิดโครงการแนวราบ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Britania Mega Town มูลค่า 2 พันล้านบาท และโครงการ Britania บางนา กม.12 มูลค่า 1 พันล้านบาท คาดว่าจะทำยอดขายได้ดีเช่นกัน
ส่วนรายได้ไนปี 61 เชื่อว่าจะทำได้เป้าหมายที่ 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีหลังจะมีการทยอยรับรู้มูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) เข้ามาราว 9 พันล้านบาท จาก Backlog ที่มีอยู่ในปัจจุบันที่ 2.9 หมื่นล้านบาท และยังมีการขายโครงการในมือมูลค่ารวม 7 พันล้านบาท จาก 14 โครงการที่อยู่ระหว่างการขาย ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ทันที