นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอ็ม วิชั่น (MVP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 จะเติบโต 50% จากปีนี้ที่คาดเติบโตเกินเป้าหมายที่วางไว้ที่ 50% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 284 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตอย่างต่อเนื่องของของตลาดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเติบโตราว 15% และปีหน้าจะเติบโตได้มากกว่า 15% จากการทยอยออกสินค้าโมเดลใหม่
นอกจากนั้น บริษัทเตรียมย้ายสถานที่จัดงานไทยแลนด์โมบายเอ็กซ์โปจากที่เคยจัดในศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ไปจัดที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทคบางนา ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่ให้ลูกค้ามาเช่าเปิดบูธมากขึ้นเมื่อเทียบกับพื้นที่เดิม โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้นจากการจัดงานดังกล่าวจะอยู่ในระดับ 40-50%
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากการจัดงานอีเวนต์ทุกประเภทคิดเป็น 60-70% ของรายได้รวม ได้แก่ จัดงานแสดงสินค้าโทรศัพท์มือถือและเทคโนโลยี กีฬา ท่องเที่ยวและสัมมนา ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากธุรกิจมีเดียและเอเจนซี่ราว 30-40%
นายโอภาส กล่าวถึงการจัดงานไทยแลนด์โมบายเอ็กซ์โป 2018 ครั้งที่ 31 ในช่วงวันที่ 27-30 ก.ย.นี้ว่า เป็นการจัดครั้งสุดท้ายของปี 61 และครั้งสุดท้ายที่จัดในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดว่างานครั้งนี้น่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากสัญญาณตลาดโทรศัพท์มือถือเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากตลาดชะลอตัวมาตลอดสองไตรมาสที่ผ่านมา โดยขณะนี้ผู้ผลิตโทรศัพท์มากกว่าสองแบรนด์ที่ไม่ได้ทำกิจกรรมทางการตลาดมากนักเริ่มกลับมาลงทุนแล้ว
ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ทั้งโทรศัพท์มือถือแบรนด์ดังและอุปกรณ์ gadget ต่าง ๆ ทำให้ MVP คาดว่างานนี้จะมีเม็ดเงินสะพัดถึง 2,000 ล้านบาท หรือเติบโต 10% จากการจัดงานครั้งก่อนที่ 1.7 พันล้านบาท โดยประเมินว่าจะมีผู้เข้าชมงานตลอด 4 วันมากกว่า 7 แสนคน โดยบริษัทจะบันทึกรายได้จากการจัดงานดังกล่าวเข้ามาทันทีหลังจบงาน
"สาหตุที่ตลาดซึมๆช่วงสองไตรมาสแรกน่าจะมาจากตัวโทรศัพท์ที่ไม่มีอะไรใหม่ ทั้งรูปทรง สีสัน และสเปก เอ็มวิชั่นเชื่อว่าเครื่องระดับราคาหนึ่งหมื่นบาทต้นๆ น่าจะขายดี เมื่อรวมปัจจัยที่ลูกค้าที่ชะลอการซื้อกลับมาซื้อเครื่องใหม่ที่กล้องดี ประกอบกับผู้ขายอยากจะเร่งปิดยอดปลายปีตลาดรวมน่าจะดีขึ้น โดยงานครั้งนี้จะเป็นงานกระตุ้นตลาดให้ขยายตัวต่อเนื่อง"นายโอภาส กล่าว
นายโอภาส กล่าวอีกว่า ช่วงปลายปีนี้บริษัทยังเตรียมจัดงานคอนเสิร์ต 3 งาน ได้แก่ งานเทศกาลดนตรีวันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัล, คอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่น และอีกหนึ่งงานที่ยังไม่ได้ระบุชื่อ รวมถึงการจัดงานวิ่งอีก 1 งาน คือ งานแข่งขันวิ่งตะนาวศรี เทรล ในไตรมาส 4/61 ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้เติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก
อีกทั้งธุรกิจรถบ้านให้เช่าจะเข้ามารองรับการจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ ด้วย ซึ่งปัจจุบันปัจจุบันมีรถบ้านให้เช่าที่ 50 คัน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 70 คัน โดยบริษัทมีเป้าหมายจะบริหารรถทั้งหมดให้มีกำไรให้ได้ และมีแผนจะเพิ่มจำนวนเป็น 200 คันในปี 62 ใช้งบลงทุนคันละ 5 แสนบาท
และในปีหน้าบริษัทเตรียมจัดอีเวนท์ใหญ่อีกหลายรายการ โดยหนึ่งในนั้นเป็นการจัดงาน Bangkok Electronic Vehicle อาจจะจัดพร้อมกับโมบาย เอ็กซ์โป ครั้งต่อไปที่ศูนย์การแสดงสินค้าไบเทคในช่วงเดือน ก.พ.62 เนื่องจากบริษัทมองว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่เติบโต โดยในไทยอาจเริ่มจากมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ขณะนี้ในต่างประเทศมีขนาดตลาดใหญ่มาก
นายโอภาส เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทยังเดินหน้าเจรจาร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับค่ายมือถือรายใหญ่ 3 รายจากประเทศจีน เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือรุ่นพิเศษ (Limited Edition) หรืออาจจะเป็นการขายมือถือแบบเฉพาะรุ่น ซึ่งจะมีรูปแบบเดียวกันที่เคยร่วมมือกับค่ายซัมซุงคือ เซ็ตพิเศษ BNK48 ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเห็นความชัดเจนของผลเจรจา 1 รายภายในวันนี้