นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เค.ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค (KWM) เปิดเผยถึงการซื้อขายหุ้น KWM วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 1 ต.ค.61 นี้ว่า มั่นใจหุ้น KWM ที่เข้าซื้อขายวันแรกจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี และน่าจะยืนเหนือราคาจองซื้อที่ 1.30 บาท/หุ้นได้ และจากการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจจากการมีเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
"คาดว่าหุ้น KWM ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน และสามารถยืนเหนือราคาจองได้ เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้มีความสดใสขึ้นหลังมีการประกาศความชัดเจนในการเลือกตั้งในปี 62 และเราเชื่อมั่นในพื้นฐานของบริษัทฯ ทั้งผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการวิจัยและพัฒนาคุณภาพของอุปกรณ์การเกษตรด้วยตนเอง โดยในปี 2561 แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทฯ มีทิศทางในการเติบโตที่โดดเด่นกว่าปีที่ผ่านมา ประกอบกับปีนี้เรามีโปรดักส์ใหม่ คือ ใบผาลที่ผลิตจากเหล็กโบรอนซึ่งเป็นเหล็กรุ่นใหม่ โดยจะเข้ามาสนับสนุนยอดขายของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น เบื้องต้นคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตประมาณ 20% " นายเอกพันธ์ กล่าว
การเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นการเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้บริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ มีนวัตกรรม, เทคโนโลยี และพื้นฐานเทคนิคด้านการเกษตร หากมีการพัฒนาที่ดี เชื่อมั่นว่าธุรกิจอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตรภายในประเทศยังโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทฯ จะสร้างการเติบโตในสิ่งที่มีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านการเกษตรซึ่งเป็นพื้นฐานของประเทศไทย จึงคาดการณ์ว่าเกษตรกรจะใช้เครื่องจักรกลการเกษตรอย่างแพร่หลาย ซึ่งบริษัทก็จะเติบโตตามอุตสาหกรรมการเกษตร ทั้งนี้ มูลค่าตลาดของใบผาลอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านใบในปี 60 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาด 20-30% และในปี 61 บริษัทฯ ตั้งเป้าการผลิตใบผาลไว้ที่ประมาณ 2 แสนใบ
ด้านนายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เออีซี ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน KWM กล่าวว่า หุ้น KWM ได้รับความสนใจจองซื้อหุ้นอย่างมากในช่วงที่เปิดการจองซื้อหุ้นเมื่อวันที่ 19-21 ก.ย.61 ที่ผ่านมา โดยบริษัทเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นสำมัญที่ออกและเรียกชำระแล้ว ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.30 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทมีความแข็งแกร่ง อนาคตมีการเติบโตต่อเนื่อง
"บริษัทมีผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตสูง และการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างโดดเด่น อีกทั้งภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยดีขึ้นจากที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยยืนเหนือ 1,700 จุดได้ และต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิส่งผลดีต่อหุ้น KWM ในการเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จากจุดแข็งทางธุรกิจหลายประการ เช่น ศักยภาพของบริษัทฯ ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร พร้อมทั้งมีทีมวิจัยและพัฒนาคุณภาพของอุปกรณ์การเกษตรโดยผู้เชี่ยวชาญ และไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ตลาดสินค้าเกษตรมีขนาดใหญ่มาก ทำให้บริษัทฯ มองเห็นโอกาสเติบโตสูงในอนาคต รวมทั้งบริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง จึงทำให้เชื่อมั่นว่า KWM จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุน" นายชนะชัย กล่าว