นายกิตติ ธนากิจอำนวย ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้แต่งตั้งนายแฟรงค์ เลิง เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม พร้อมดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.61
การแต่งตั้งครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการที่บริษัท ฟัลครัม โกลบอลและบริษัท เอ็น แคปิตอลจำกัดได้เข้าซื้อหุ้นของโนเบิลในสัดส่วน 24.9% จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของทางบริษัทฯฯ ทำให้ปัจจุบัน ฟัลครัม โกลบอล เป็นผู้ถือหุ้นและพันธมิตรที่สำคัญของโนเบิล
การร่วมมือกับฟัลครัม โกลบอลพร้อมทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์โดยเฉพาะนายแฟรงค์ เลิงที่จะมาเป็นประธานบริหารร่วม ทำให้เรามีความเชื่อมั่นในแนวทางการเจาะตลาดต่างชาติ ที่จะช่วยให้โนเบิลสามารถขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิผลยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในปีหน้าและในอนาคต โดยในขั้นต้น จะนำโครงการใหม่ ๆ ไปแนะนำในตลาดต่างประเทศ โดยจะเน้นรุกตลาดประเทศจีน ฮ่องกง สิงค์โปร์ ไต้หวัน ยุโรป และ สหรัฐอเมริกา
"นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพ และสามารถมอบความพอใจเหนือความคาดหมายให้แก่ลูกค้าและนักลงทุนทุกกลุ่ม โนเบิลมองเห็นโอกาสจากแนวโน้มที่ขยายตัวอย่างมากของการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติในอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยในปี 60 มีอัตราเติบโตกว่า 30% และคาดว่าในปีนี้น่าจะสามารถเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 40% ปัจจุบัน โครงการคุณภาพใจกลางเมืองหลายแห่งของโนเบิลได้รับความสนใจจากลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเป็นพันธมิตรกับ ฟัลครัม โกลบอลและการแต่งตั้งผู้บริหารใหม่ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์อย่างมากด้านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติถือเป็นการเดินกลยุทธ์ทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนโนเบิลให้แข็งแกร่งและมีการเติบโตมากขึ้น และยังจะสร้างประโยชน์ด้านการลงทุนให้กับผู้ถือหุ้นของเราอีกด้วย"
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงปลายปี และจะยังเน้นสร้างสรรค์โครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูง ที่ทำให้ผู้บริโภคมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในอนาคตอีกหลายแห่ง
นายกิตติ กล่าวเสริมว่า ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียมีภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เราได้เห็นความคืบหน้าด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทั้งระบบราง ทางหลวง และท่าอากาศยานที่เชื่อมโยงกันอย่างมีระบบ สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดการลงทุนจากต่างชาติ และนักลงทุนชาวต่างชาติหันมาให้ความสนใจในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของไทยมากขึ้น