นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะไต่ระดับขึ้น หลังจากราคาน้ำมันปรับขึ้นทะลุ 73 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และเศรษฐกิจไทยก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี สะท้อนอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสามารถชดเชยปัจจัยนอกประเทศที่มีความไม่แน่นอนได้บ้าง ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยยังต้องติดตามประเด็นสงครามการค้า และตัวเลขดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ในวันนี้
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการเมืองในอิตาลี หลังจากที่รัฐบาลอิตาลีจะเสนอเป้าหมายขาดดุลงบประมาณปี 62 มากกว่าที่สหภาพยุโรป (อียู)จะรับได้ ซึ่งประเด็นนี้อาจมีผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) และค่าเงินยูโรอาจอ่อนค่า
พร้อมให้แนวรับ 1,750-1,745 จุด ส่วนแนวต้าน 1,760-1,765 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 ก.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,458.31 จุด เพิ่มขึ้น 18.38 จุด (+0.07%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,913.98 จุด ลดลง 0.02 จุด (-0.00%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,046.35 จุด เพิ่มขึ้น 4.38 จุด (+0.05%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 53.33 จุด,ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 7.85 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.57 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.38 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.84 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 20.28 จุด
ส่วนตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันชาติ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ก.ย.61) 1,756.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.46 จุด (+0.20%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,224.80 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ก.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 ก.ย.61) ปิดที่ 73.25 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ก.ย.61) ที่ 5.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.29 แข็งค่ารับเม็ดเงินไหลเข้าต่อเนื่อง มองกรอบวันนี้ 32.25-32.35
- นายกฯ สั่งเร่งโครงสร้างพื้นฐานอีอีซี โดยการประชุมบอร์ดบีโอไอล่าสุดเมื่อ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้พิจารณาอนุมัติในหลักการให้ส่งเสริมทั้ง 5 โครงการเรียบร้อยแล้ว เพื่อรองรับการออกทีโออาร์ไม่เกิน พ.ย.นี้
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4.6% จากเดิม 4.5% แรงขับเคลื่อนหลักยังมาจากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวแม้จะผ่อนแรงในครึ่งปีหลังบ้าง แต่จะเริ่มปรับดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ขณะที่การใช้จ่ายในประเทศได้แรงหนุนทั้งจากการบริโภคภาคเอกชนที่เติบโตดี และการลงทุนภาคเอกชนที่เริ่มปรับดีขึ้นด้วย โดยในไตรมาส 3 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 4.2% และครึ่งปีหลังจะขยายตัวได้ 4.4%
- "คมนาคม" จัดกลุ่มลงทุนรถไฟทางคู่เฟส 2 กว่า 3.5 แสนล้าน ดันเติมเต็มโครงข่ายเส้นทางภาคอีสานชง สศช. ก่อน ส่วนชุด 2 เป็นโครงข่ายสายเหนือ "วรวุฒิ" คาด ครม.อนุมัติปลายปี 61 เริ่มทยอยเปิดประมูล และลงนามก่อสร้างในต้นปี 62 หวังเส้นทาง "ขอนแก่น-หนองคาย" เชื่อมแหลมฉบัง และ EEC กับลาวเพิ่มขีดการขนส่งสินค้าตามยุทธศาสตร์ชาติ
- รฟท.เดินหน้าเปิดทีโออาร์รถไฟไทย-จีน ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. เป็นการก่อสร้างระดับดิน และยกระดับ คาดใช้เวลาไม่เกิน 15 เดือนแล้วเสร็จ
- กรมสรรพากรได้ประกาศรายชื่อบริษัทที่ผ่านคุณสมบัติเป็นตัวแทนคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรในเมืองแล้ว โดยมีผู้ผ่านการคัดเลือกเพียง 1 ราย คือ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด จากบริษัทที่ยื่นสมัครมาทั้งหมด 3 ราย และจะเริ่มให้บริการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่นักท่องเที่ยวได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 61 นี้เป็นต้นไป เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นการใช้จ่ายจากชาวต่างชาติ
*หุ้นเด่นวันนี้
- KWM (บมจ. เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค) เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยราคาเสนอขาย IPO 1.30 บาท/หุ้น บล.โกลเบล็ก ระบุว่า ราคา IPO คิดเป็น Current PER ที่ 22.95 เท่า น้อยกว่าหมวดสินค้าอุตสาหกรรมในตลาด MAI ที่มีค่า PER เฉลี่ยเท่ากับ 28.76 เท่า
บริษัทดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทแบ่งเป็น 4 ประเภทได้แก่ 1)ใบผาล ใบจักร ใบคัดท้าย ใช้ต่อพวงกับรถแทรกเตอร์ใช้สำหรับขั้นตอนการเตรียมดินเพาะปลูก มีสัดส่วนรายได้ 61% 2)โครงผาล ใช้สำหรับยึดกับใบผาล มีสัดส่วนรายได้ 16% 3)ใบเกลียวลำเลียง ใช้ในการลำเลียงสิ่งของ เช่น ข้าวเปลือก เม็ดพลาสติก ผงแป้ง เป็นต้น มีสัดส่วนรายได้ 9% 4)ใบดันดิน ใช้ยึดกับรถแทรกเตอร์ เพื่อดันเกลี่ยหน้าดินให้เรียบ มีสัดส่วนรายได้ 12%
- TGPRO-W3 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ (TGPRO)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 1,944,509,396 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 5 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (21 กันยายน 61) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 28 ธ.ค. 2561 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 20 ก.ย. 2566
- META-W3 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เมตะ คอร์ปอเรชั่น (META)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 150,012,985 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 9 เดือน นับตั้งแต่วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (21 กันยายน 2561) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 29 พ.ย. 2561 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 20 มิ.ย. 2562
- TKN (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 21.5 บาท คาดกำไร H2/61 จะโตทั้ง yoy และ hoh จากการเข้าสู่ช่วง High season, กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากการเริ่มผลิตของโรงงานใหม่ (เฟส3) และได้ประโยชน์จากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลง