นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท Store It! Management จากประเทศสิงคโปร์ รุกธุรกิจ Self-Storage (ห้องเก็บของส่วนตัวและบริการจัดเก็บสินค้าด้วยตนเอง) ในประเทศไทย โดยปัจจุบันได้เปิดให้บริการ Self-Storage สาขาที่ 2 ทำเลสยาม บนถนนจุฬา ซอย 16 ภายในพื้นที่โครงการ Zy Walk ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และมีแผนเปิดให้บริการ Self-Storage แห่งใหม่บนทำเลสาทร จะมีพื้นที่ให้บริการรวม 4,000 ตารางเมตร คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 1/62
ทั้งนี้ เมื่อรวมพื้นที่กับสาขากรุงเทพกรีฑาและสยามที่เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อย จะทำให้ JWD เป็นผู้ประกอบธุรกิจ Self-Storage รายใหญ่ที่มีพื้นที่ให้บริการ รวม 12,000 ตรม. มากที่สุดรายหนึ่งในประเทศ โดยการดำเนินการดังกล่าวอยู่ภายใต้บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี สโตร์ อิท จำกัด มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง JWD ถือหุ้น 90% และบริษัท Store It! Management จากสิงคโปร์ ถือหุ้นอีก 10%
ทั้งนี้ Self-Storage สาขาสยาม เป็นอาคาร 5 ชั้นและชั้นดาดฟ้าอีก 1 ชั้น มีพื้นที่ให้บริการรวม 6,000 ตารางเมตร และเป็น Self-Storage โครงการแรก ๆ ที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศทั้งอาคารเพื่อควบคุณอุณหภูมิให้เหมาะสมต่อการเก็บของใช้ส่วนตัว ปัจจุบันเปิดให้บริการพื้นที่เฟสแรก ประกอบด้วย ห้องเก็บของส่วนตัว ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 1-11 ตารางเมตร โดยลูกค้าที่ใช้บริการสามารถเข้า-ออกได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนพื้นที่ชั้นอื่น ๆ จะทยอยเปิดให้บริการในเฟสต่อ ๆ ไป โดยเบื้องต้นมีแผนพัฒนาห้องเก็บของนิรภัยเพื่อให้บริการจัดเก็บสิ่งของมีค่า ห้องเก็บงานศิลปะ ห้องเก็บไวน์ และจะมีบริการ Store It! Express รับส่งสิ่งของ พร้อมทั้งนำมาจัดเก็บให้ถึงที่ Self-Storage เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า
"เรามองเห็นแนวโน้มการเติบโตที่ดีและโอกาสขยายการลงทุน Self-Storage ในพื้นที่ใจกลางเมือง หลังจากที่ JWD เปิดให้บริการ Self-Storage สาขาแรกบนถนนกรุงเทพกรีฑามาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี และได้รับการตอบรับที่ดีปัจจุบันมีอัตราเช่าพื้นที่กว่า 80% จากพื้นที่ให้บริการรวม 2,000 ตารางเมตร ส่วนการเปิดบริการ Self-Storage สาขาสยาม เนื่องจากมองว่าเป็นแหล่งชุมชนที่มีผู้พักอาศัยและร้านค้าหนาแน่น นอกจากนี้ภาวะปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มีพื้นที่เก็บของค่อนข้างจำกัด จึงถือเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เรามองเห็นโอกาสในการทำตลาด" นายชวนินทร์ กล่าว
นายชวนินทร์ กล่าวว่า สำหรับบริษัท Store It! Management จากประเทศสิงคโปร์ มีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจ Self-Storage ในประเทศสิงคโปร์มากกว่า 14 ปี และมีการขยายธุรกิจดังกล่าวที่เกาะฮ่องกง ประเทศมาเลเชียและเกาหลีใต้ โดยการร่วมทุนครั้งนี้จะสามารถแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อร่วมกันขยายธุรกิจในประเทศไทย โดย JWD มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจคลังสินค้าและให้บริการโลจิสติกส์มายาวนาน ขณะที่พาร์ทเนอร์ชาวสิงคโปร์ก็มีความรู้ความเข้าใจในพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าที่ใช้บริการ
"ธุรกิจ Self-Storage ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการมากกว่า 10 ราย มากกว่าเมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ รายกลาง และรายเล็ก อย่างไรก็ตาม JWD มั่นใจในความเชี่ยวชาญ การมีพาร์ทเนอร์ที่ดี และจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งของ Self-Storage ที่อยู่ในย่านใจกลางเมือง สามารถเดินทางมาเก็บและรับสินค้าได้สะดวก จึงเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี"นายชวนินทร์ กล่าว