นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือปตท.สผ. เปิดเผยว่า การเข้ารับตำแหน่งดังกล่าวตั้งแต่วันนี้ (1 ต.ค.) มีเป้าหมายจะผลักดันให้ ปตท.สผ. ปรับตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม (Disruptive Technology) โดยการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรและกระบวนการทำงาน เพื่อให้เกิดความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ล่าสุด บริษัทได้เตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเพื่อมองหาธุรกิจใหม่ โดยจัดตั้งบริษัท อีพี-เทค เวนเจอร์ส โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อรองรับการลงทุนธุรกิจใหม่ในอนาคต เช่น เทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ การซ่อมบำรุงเชิงพยากรณ์ รวมทั้งการมองหาโอกาสลงทุนในพลังงานทางเลือก
นอกจากนี้ ปตท.สผ. จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตในอนาคต โดยจะให้ความสำคัญกับธุรกิจก๊าซธรรมชาติครบวงจร (Gas Value Chain) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น ธุรกิจโรงไฟฟ้า Gas to Power โดยมุ่งเน้นที่ประเทศเมียนมา และจะผลักดันให้สามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมในเวลาอันใกล้นี้
ส่วนธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทนั้น ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเป็นผู้ชนะการประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติที่กำลังจะหมดอายุในอ่าวไทย ทั้งแหล่งบงกชและเอราวัณ รวมทั้งการแสวงหาโอกาสการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง และเร่งรัดการสำรวจแหล่งปิโตรเลียมที่มีศักยภาพเพื่อสร้างความมั่นคงและการเติบโตอย่างยั่งยืน
"ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการในช่วง 2-3 ปีนี้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ผมยังเชื่อมั่นว่าการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจะยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้กับบริษัท แต่ขณะเดียวกัน ต้องให้ความสำคัญกับธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบันของเราเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เชื่อว่าแนวคิดและกลยุทธ์ที่ผมได้กล่าวมานี้ จะเป็นกำลังสำคัญให้ ปตท.สผ. เติบโตต่อไปในอนาคตได้อย่างยั่งยืน"นายพงศธร กล่าว
นายพงศธร กล่าวว่า ยังมุ่งมั่นที่จะนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีมาใช้ในการบริหารกิจการของ ปตท.สผ. โดยจะทบทวนในเชิงการบริหารจัดการให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงอยู่ในกรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความโปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน เพื่อผลักดันให้ ปตท.สผ. เติบโตอย่างยั่งยืน สง่างาม และเป็นองค์กรต้นแบบด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี