นายพีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายสร้างแบรนด์ "Beauty Buffet" สู่การเป็นรีจินัลแบรนด์ (แบรนด์ระดับภูมิภาค) ภายในระยะเวลา 2 ปี หรือภายในปี 63 โดยมุ่งเน้นการสร้างความเป็นที่รู้จักและความเชื่อมั่นต่อคุณภาพสินค้ากับกลุ่มผู้บริโภคในประเทศต่าง ๆ พร้อมทั้งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ๆ ในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV อาเซียน จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เป็นต้น
ล่าสุด Beauty Buffet จัดงาน Beauty Annual Meeting 2018 จัดประชุมตัวแทนจำหน่าย 11 ประเทศ พร้อมแถลงกลยุทธ์และกิจกรรมทางการตลาดในปี 61 และทิศทางธุรกิจปี 62 เพื่อวางแผนงานส่งเสริมแบรนด์ต่าง ๆ ภายใต้การบริหาร อาทิ Beauty Buffet และ Beauty Cottage ให้เป็นที่รู้จักให้มากขึ้น รวมถึงการเปิดตัว Collection สินค้าใหม่ของแต่ละแบรนด์ โดยเชิญผู้แทนจำหน่าย (Exclusive Distributers) ประกอบด้วย ลาว เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ไต้หวัน และตัวแทนจาก Middle East ได้แก่ ดูไบ ซาอุ คูเวต และบาห์เรนเข้าร่วมงานดังกล่าว ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก และมีแผนจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี หมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพในแต่ละปี
ทั้งนี้ ตัวแทนจำหน่ายในทุกประเทศจะมุ่งเน้นใช้กลยุทธ์การตลาด Integration Marketing เชื่อมโยงทุกเครื่องมือการตลาดเข้าหากัน ชูจุดเด่นคุณภาพและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เน้นสินค้าที่เป็นอินโนเวชั่น ตามเทรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขนานไปกับกลยุทธ์ O2O (Online to Offline synchronization) เพื่อกระตุ้นการสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างการรับรู้กับลูกค้าในวงกว้าง
ส่วนรูปแบบการขยายช่องทางจัดจำหน่าย ประกอบด้วย ตัวแทนจำหน่ายสินค้า(Product Distributers) ตัวแทนสาขา (Shop Licenses) และ Online Retailers ที่ได้รับความนิยมในแต่ละประเทศ ซึ่งการขยายช่องทางจำหน่ายใหม่เพิ่มเติมในตลาดต่างประเทศจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของ Beauty Buffet มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
"ตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เป็นตลาดขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อจำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มสกินแคร์ ผลตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากมีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ Beauty Buffet ซึ่งมีความหลากหลาย มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และราคาไม่แพง เชื่อว่าหากขยายสาขาครอบคลุมในทุกประเทศ จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ Beauty Buffet มียอดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นจากการหาซื้อผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น สร้างความนิยมในตราสินค้าให้เกิดขึ้นพร้อมกันทุกประเทศ"นายพีระพงษ์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าของการขยายตลาดต่างประเทศตั้งแต่ต้นปีถึงช่วงไตรมาส 3 บริษัทได้จับมือพันธมิตร Tmall , JD.com และอีคอมเมิร์ชรายใหญ่ของประเทศจีนจำนวน 4 ราย, กลุ่มประเทศ CLMV ได้ดำเนินการเปิดสาขาเพิ่ม Shop License ในเมียนมา 2 สาขา เวียดนาม 4 สาขา และลาว 2 สาขา ซึ่งมีอัตราการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ พาร์คสัน ห้างค้าปลีกรายใหญ่ของมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งบริษัทมีการวางแผนขยายตลาดเพิ่มขึ้นในประเทศ อินโดนีเซีย และกัมพูชา
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการแต่งตั้งตัวแทนเพื่อขยายตลาดต่างประเทศอนาคตเพิ่ม โดยประเทศกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ประเทศรัสเซีย และอินเดีย โดยบริษัทมุ่งเน้นประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก มีตลาดรองรับขนาดใหญ่ ทั้งนี้บริษัทเชื่อมั่นว่าในปี 2561 ผลประกอบการจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้