(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์หลังตอบรับศก.จีนชะลอตัวไปแล้ว-เล็งแรงหนุนจาก Domestic Plays

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 3, 2018 09:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้จับตาโมเมนตัมของตลาดฯจะดีหรือเปล่า แต่ก็มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้ หลังจากที่ตลาดฯได้ตอบรับเรื่องเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวไปแล้วรับผลจากสงครามการค้า แต่ที่มองบวกอยู่ที่ดัชนีฯยังไม่หลุดแนวรับสำคัญเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ระดับ 1,746-1,747 จุด และโมเมนตัมกำไรในไตรมาส 3/61 ยังเป็นบวก มองจากกลุ่มแบงก์ที่กำไรอาจจะมี upside หลังจากที่มีการเลื่อนใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่9 (IFRS9) อีกทั้งราคาน้ำมันก็ยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดีเน้นลงทุนพวก Domestic plays อย่างกลุ่มโรงไฟฟ้า, ค้าปลีก, แบงก์ เป็นต้น

แต่ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มองเป็นลบ โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย เนื่องจากแบงก์ชาติจะออกเกณฑ์มาคุมวันนี้ ดังนั้นนักลงทุนควรจะเลือกลงทุนเป็นรายตัว

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน โดยเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นฮ่องกงได้ปรับตัวลงไปมาก ตอบรับความกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอไปแล้วรับผลจากสงครามการค้า

พร้อมให้แนวรับ 1,745-1,740 จุด ส่วนแนวต้าน 1,755-1,760 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 ต.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,773.94 จุด พุ่งขึ้น 122.73 จุด (+0.46%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,923.43 จุด ลดลง 1.16 จุด (-0.04%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,999.55 จุด ลดลง 37.76 จุด (-0.47%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 51.43 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 14.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 286.18 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 0.89 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ลดลง 1.12 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 2.96 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.25 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวันนี้ (3 ต.ค.) เนื่องในวันชาติ และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันสถาปนาประเทศ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ต.ค.61) 1,748.09 จุด ลดลง 12.38 จุด (-0.70%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,171.48 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 ต.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 ต.ค.61) ปิดที่ 75.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.09%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ต.ค.61) ที่ 6.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.37 มองกรอบวันนี้ 32.30-32.40 จับตาเงินทุนเคลื่อนย้าย-ตัวเลขศก.สหรัฐฯ
  • "แบงก์ชาติ" เตรียมออกมาตรการคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เร่งหารือ ผู้เกี่ยวข้อง พร้อมเปิดรับฟังความเห็น เร็วๆนี้ หวังสกัดการเก็งกำไรป้องกันหนี้เสียลาม ด้านสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัยหนุนออกมาตรการคุม ยอมรับ "แอลทีวี" ผ่อนปรนเกินไป หวั่นสร้างปัญหาต่อระบบในระยะข้างหน้า ขณะ ศูนย์วิเคราะห์ทีเอ็มบี ชี้การปล่อยแอลทีวีระดับสูงส่งผลต่อหนี้เสียเพิ่ม จับตาบ้านหรู กลุ่ม 10-20 ล้าน เอ็นพีแอลพุ่งมากสุด
  • "กกร." ปรับประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจและส่งออกปีนี้เพิ่มขึ้นในกรอบล่าง โดยปรับจีดีพีจากเดิมโต 4.3-4.8% เป็น 4.4-4.8% ส่งออกจากโต 7-10% เป็นโต 8-10% กังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนกระทบศก.มากขึ้นในปีหน้า รวมถึงราคาน้ำมันที่รัฐตรึงดีเซลจนทำให้กองทุนน้ำมันฯเริ่มลดลง พร้อมประสานเสียงอยากได้รัฐบาลใหม่โปร่งใส กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ชมเปาะยุคบิ๊กตู่โปร่งใส
  • ฟิทช์ประเมินเศรษฐกิจโลกปีนี้เติบโต 3.3% และ 3.1% ในปีหน้า รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่ประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่เผชิญความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากตลาดเงินโลกที่ตึงตัวขึ้น เชื่อประเทศไทยยังรับมือได้ ทั้งในส่วนของภาคการธนาคารจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ
  • กสิกรไทยเผยเงินทุนต่างชาติไหลเข้าไทยไม่หยุด คาดยอดถือครองพันธบัตรระยะสั้นและยาว มีโอกาสทะลุ 1 ล้านล้านบาท ชี้ผลจากพฤติกรรมนักลงทุนตามกระแสล่าหาผลตอบแทนในช่วงดอกเบี้ยต่ำ ถือเป็นปีทำสถิติเอกชนออกหุ้นกู้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KCE (หยวนต้า) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 44 บาท ด้วย 3 เหตุผล 1.คาดกำไรปกติ Q3/61 ที่ 680 ล้านบาท (+29.0% QoQ, +19.9% YoY) โต YoY เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาส และโต QoQ เป็นไตรมาสที่สอง จากฐานต่ำ การเข้าสู่ high season ค่าเงินบาท/USD ที่อ่อนค่า และราคาทองแดงลดลง, 2. คาดกำไร 9M61 คิดเป็น 68.4% ของประมาณการทั้งปี 2561 ขณะที่ Q4/61 กำไรอาจอ่อนตัวลง QoQ หลังเงินบาท/USD แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ทำให้ประมาณการปี 2561 มี downside risk ประมาณ 4-5% และ 3. ราคาหุ้น ณ ปัจจุบันซื้อขาย บน PER62 ที่ 17.0X (+0.5SD regional peer) สะท้อนความคาดหวังเชิงบวกต่อกำไรฟื้นตัวไปมากแล้ว ขณะที่เงินบาทกลับมาแข็งค่าจำกัด upside ระยะสั้น โดยมองว่าหุ้นจะกลับมาน่าสนใจ หากเงินบาท/USD อ่อนค่าต่ำกว่า 33.00 อย่างมีนัยยะ
  • INTUCH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 67.50 บาท ราคาหุ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมายัง laggard SET50 อยู่ราว 4% และ laggard กลุ่มสื่อสารราว 2% ในเชิง Valuation ยังน่าสนใจ จากราคาหุ้นที่ Discount NAV ของ ADVANC มากถึง 25% และให้ปันผลเฉลี่ยสูงถึง 5% ต่อปี เหมาะใช้เป็น Safe Haven ในช่วงตลาดหุ้นผันผวน
  • TISCO (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 110 บาท ภาพรวม Q3/61 ทรงตัว QoQ แต่อาจเห็นสำรองหนี้ลดได้อีก โดยคาดกำไร 3Q61 ที่ 1,751 ล้านบาท ดีขึ้น 2%QoQ และ 11%YoY รายได้ดอกเบี้ยอาจดีขึ้นเล็กน้อยตามสินเชื่อ แต่มีแรงกดดันจากการปรับดอกเบี้ยเงินฝากเล็กน้อย พร้อมคาดรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจตลาดทุนอ่อนตัวลง QoQ ตามภาวะตลาด แนวโน้มคุณภาพหนี้ยังดี แต่อาจเห็นการตั้งสำรองส่วนเกิน ทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้โดยรวมลดลงจากไตรมาสก่อนเพียงเล็กน้อย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ