ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายไหลลงต่อเนื่องไปเป็นกว่า 20 จุด นอกจากจะเป็นไปตามทิศทางภูมิภาคแล้ว ยังเกิดความกังวลผลกระทบจากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีการปรับปรุงเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยอาจจะมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการในระดับบน รวมถึงกลุ่มสถาบันการเงิน
เมื่อเวลา 15.22 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,721.64 จุด ลดลง 20.32 จุด (-1.17%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.35 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,722.95 จุด ลดลง 19.01 จุด (-1.09%)
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในภาคบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 20 จุด หลังจากหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,730 จุด ลงมาก็ทำให้มีแรงขายออกมามากขึ้น โดยตลาดฯวันนี้เผชิญปัจจัยลบหลายด้านทั้งเรื่องค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ทำให้สกุลเงินในเอเชียอ่อนค่าลง ส่งผลให้ Fund Flow ไหลออกต่อเนื่อง โดยวันนี้เงินบาทอ่อนลงมาทดสอบ 32.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นเส้น 200 วัน ขณะนี้ก็แกว่งอยู่แถวบริเวณนี้
นอกจากนี้ ยังเผชิญแรงกดดันจากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ กดดันหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มแบงก์ที่ปล่อยสินเชื่อ ทำให้มีแรงขายออกมา
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ก็ติดลบ เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ติดลบราว 0.7% โดยตลาดบ้านเราก็ติดลบใกล้เคียงกับตลาดในกลุ่ม TIP ซึ่งมองว่ามาจากเรื่อง Fund Flow ไหลออกเป็นหลัก
พร้อมให้แนวรับ 1,710 จุด ส่วนแนวต้าน 1,740 จุด