(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่ง Sideway Down เหตุ Bond Yield สหรัฐฯพุ่งกดดันกระแสเงินทุนไหลออก-Sentiment ในปท.ไม่ดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 5, 2018 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway Down เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทำ New High ในรอบ 7 ปี แตะระดับ 3.2% สร้างแรงกดดันต่อกระแสเงินทุนต่างประเทศให้ไหลออก โดยเฉพาะ Emerging Market ซึ่งการที่ Bond Yield สูงขึ้นทำให้คนกลัวสหรัฐฯจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็ว อีกทั้งเศรษฐกิจของสหรัฐฯก็มีการขยายตัวดีด้วย

นอกจากนี้ Sentiment ในประเทศก็ไม่ค่อยดี หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับปรุงดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และดัชนีคววามเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยงวดเดือนก.ย.ก็ปรับตัวลงด้วย

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนนลบเป็นส่วนใหญ่ พร้อมให้แนวรับ 1,720-1,710 จุด ส่วนแนวต้าน 1,735-1,740 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (4 ต.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,627.48 จุด ร่วงลง 200.91 จุด (-0.75%) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,879.51 จุด ลดลง 145.57 จุด (-1.81%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,901.61 จุด ลดลง 23.90 จุด (-0.82%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 193.86 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 120.12 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 53.62 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 4.55 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 7.24 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.59 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันชาติ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ต.ค.61) 1,729.40 จุด ลดลง 12.56 จุด (-0.72%)
  • นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 4,951.73 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ต.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (4 ต.ค.61) ปิดที่ 74.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.08 ดอลลาร์ หรือ 2.72%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ต.ค.61) ที่ 4.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.72 แนวโน้มอ่อนค่า จับตาเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างวัน-ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯคืนนี้
  • แบงก์ชาติวาง 3 แนวทางเข้มสินเชื่อบ้าน เน้นคุมบ้านหลังที่สอง-บ้านหรูเกิน 10 ล้านบาท ต้องวางดาวน์ 20% ขณะบ้านหลังแรกสั่งคุมแอลทีวีรวม ท็อปอัพไม่เกิน 100% แจงเหตุสั่งคุมเพราะมาตรฐานสินเชื่อหย่อนยานทุกมิติ อสังหาฯ โอดคุมเข้มสินเชื่อป่วนตลาด โดยเฉพาะ "คอนโด"โอนหลัง 1 ม.ค.62 "คอลลิเออร์ส" ระบุครึ่งปีแรกคอนโดอยู่ระหว่างการขายกว่า 1.7 แสนยูนิต บ้านจัดสรรกว่า 5.9 หมื่นยูนิต
  • "เวิลด์แบงก์" ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยเพิ่มเป็น 4.5% หลัง"ส่งออก-ลงทุน"ขยายตัวดี พร้อมชมนโยบายปฎิรูปเศรษฐกิจมาถูกทาง เชื่อดันไทยหลุดพ้นประเทศรายได้ปานกลาง-สูง ได้ภายใน 20 ปี ส่วนเศรษฐกิจปีหน้าโตชะลอ เหลือ 3.9% จากความผันผวนด้านการส่งออก
  • กพอ.อนุมัติประมูล 4 โครงการใหญ่อีอีซี 4.3 แสนล้านบาท ทั้งสนามบิน-ท่าเรือ เร่งออกทีโออาร์- หนังสือชี้ชวนเดือนต.ค.นี้ "คณิศ"โชว์ตัวเลขรัฐลงทุนน้อย แต่ได้ผลตอบแทนรวม 8.1 แสนล้านบาท สร้างงาน 4 หมื่นตำแหน่ง ต่อปี "บินไทย"มั่นใจเอ็มอาร์โอสร้างรายได้ ระยะยาว ปตท.ชี้ยังสนใจไฮสปีด
  • นักท่องเที่ยวจีนลด ราคาน้ำมันพุ่ง ฉุดดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. ปรับตัวลดครั้งแรกรอบ 4 เดือน
  • 3 สมาคมลุ้นพรรคการเมืองรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ มั่นใจหลังการเมืองปลดล็อกดึงเรียลดีมานด์คึกคัก เผยไตรมาส 3 ยอดเปิดคอนโดสูงสุดกว่า 2.4 หมื่นยูนิต คาดช่วงที่เหลือเปิดอีกไม่น้อยกว่าหมื่นยูนิต

*หุ้นเด่นวันนี้

  • HANA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 45 บาท แนวโน้มกำไรสุทธิ Q3/61 จะเติบโตดี Q-Q เบื้องต้นคาดราว 600-650 ล้านบาท แต่ลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 770 ล้านบาท เพราะบาทเงินบาทแข็ง แต่การฟื้นตัว Q-Q มาจากทั้ง High Season และคำสั่งซื้อที่แกร่งมาก เพิ่งได้รับคำสั่งซื้อใน Smartphone แบรนด์จีน ในขณะที่ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มนิ่งแล้ว พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2561 จะลดลง 28% Y-Y เพราะฐานสูงปีก่อน แต่จะกลับมาโตในปี 2562 ราว 15.2% Y-Y และคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลปีนี้ 4.4%
  • BLA (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 42 บาท คาดได้ผลบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond yield) ที่สูงขึ้น เนื่องจากพอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่ของธุรกิจประกันจะอยู่ในพันธบัตร หาก Bond yield สูงขึ้นจะทำให้กำไรจากพอร์ตลงทุนสูงขึ้นตามไปด้วย
  • SUN (เออีซี) "ซื้อ"เป้า Consensus 4.4 บาท แม้ปี 61 Bloomberg Consensus คาดกำไรหด 30.6%YoY แต่ปี 62 คาดกำไรจะพลิกกลับมาโต 58.9%YoY จากอานิสงส์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงและแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อการส่งออกภายใต้แบรนด์ KC เพิ่มเติมอีกจำนวน 2 รายการ ได้แก่ สับปะรดถุงพร้อมทานและข้าวโพดบาร์บีคิวนอกจากนี้ยังมีแผนปรับพอร์ตการจำหน่ายสินค้าใหม่เป็นสัดส่วนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวโพดกระป๋องอยู่ที่ 60%, ข้าวโพดแช่แข็ง 25% และข้าวโพดถุงพร้อมทาน 15% ตามลำดับ บวกกลับมี Upside 27.2%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ