(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: นลท. วิตก ศก.สหรัฐ ฉุดฮั่งเส็งร่วง 252.13 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 2, 2008 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ (2 ม.ค.) ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของปี 2551 นักลงทุนจำนวนมากต่างมีท่าทีระมัดระวังหลังตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับลดลงในช่วงสิ้นปี นอกจากนั้นนักลงทุนยังเฝ้ารอข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะเป็นตัวชี้นำว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะดำเนินไปในทิศทางใด 
มีการคาดการณ์ว่าสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในวันศุกร์นี้ โดยคาดว่าบัญชีเงินเดือนประจำเดือนธ.ค.จะแสดงให้เห็นถึงการถดถอยของตัวเลขการจ้างงาน
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลง 252.13 จุด หรือ 0.9% ปิดที่ 27,560.52 จุด หลังนักลงทุนเทขายทำกำไรจากหุ้นดีดตัวขึ้นกว่า 400 จุด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
"ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปรับลดลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยที่สกัดช่วงขาขึ้นของหุ้นบลูชิปในตลาดหุ้นฮ่องกง" ปีเตอร์ ไหล ผู้อำนวยการของ DBS Vickers กล่าว
"ตอนนี้ตลาดกำลังขาดปัจจัยชี้นำ นักลงทุนต่างรอข่าวเกี่ยวกับปัญหาซับไพรม์ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ และมาตรการควบคุมเศรษฐกิจมหภาคของจีน" นายไหลกล่าว
นายไหลคาดการณ์ว่า ดัชนีฮั่งเส็งจะเคลื่อนไหวในกรอบกว้างๆและรุนแรงมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังไม่แน่นอนทำให้นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังอยู่ตลาดเวลา
หุ้นกลุ่มบลูชิปปรับลดลง โดยหุ้นไชน่า โมบาย ร่วง 1.70 ดอลลาร์ฮ่องกง และ หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ลดลง 80 เซนต์
หุ้นเอ็มทีอาร์ คอร์ป ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินหลายแห่งในประเทศ ทะยาน 1.65 ดอลลาร์ หลังนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์จะขยายตัวอย่างโดดเด่นในปีนี้
หุ้นไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ที่ปรับเพิ่ม 34 เซนต์ เป็นปัจจัยที่สกัดขาลงของตลาดในวันนี้ ในขณะที่หุ้นแอร์ ไชน่า ลดลง 8 เซนต์
หุ้นกลุ่มการเงินต่างปรับลดลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการทางการเงินอันเข้มงวดที่จีนอาจประกาศใช้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยหุ้นแบงค์ ออฟ ไชน่า ขยับลง 5 เซนต์, หุ้นไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ ลดลง 10 เซนต์ และ หุ้นบีโอซี ฮ่องกง ร่วง 50 เซนต์
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็ปรับลดลงเช่นกัน โดยมีหุ้นฮั่งหลุง พร็อพเพอร์ตี้ส์ เป็นหุ้นที่ร่วงลงมากที่สุดในวันนี้ที่ 1.20 ดอลลาร์
นอกจากนั้นตลาดยังให้ความสนใจกับบริษัทโบรกเกอร์บางราย หลังจีนประกาศอนุญาตให้บริษัทต่างชาติถือหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์จีนซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ไม่เกิน 33% ภายใต้กฎข้อบังคับใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ