บล.กสิกรไทย มองว่า สัปดาห์ถัดไป (8-12 ต.ค.) ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,705 และ 1,690 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,730 และ 1,740 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/2561 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. ตลอดจนถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. ของประเทศแถบยุโรป
ดัชนีตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันจากหลากหลายปัจจัย โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับที่ 1,720.52 จุด ลดลง 2.04% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 12.19% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 57,388.09 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 449.37 จุด ลดลง 1.54% จากสัปดาห์ก่อน
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน โดยได้รับแรงกดดันจากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน (หลังสหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับแคนาดาและเม็กซิโก แต่การเจรจาการค้ากับจีนยังไร้ความคืบหน้า) ความเปราะบางของประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ หลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากแนวทางการกำกับสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ประกาศโดยธปท.