เอเซียพลัส มองหุ้นไทยขาดแรงซื้อต่อเนื่อง-ปัจจัยลบรุมเร้า คาดสัปดาห์หน้าปรับฐาน แนวรับ 1,700-1,711 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday October 6, 2018 12:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.เอเซียพลัส ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยว่าปัจจัยแวดล้อมยังมีน้ำหนักในทางลบ ขณะที่แรงซื้อขาดความต่อเนื่อง SET Index เกิดสัญญาณลบจากการหลุดแนวรับ 1730 จุดลงมา ทำให้สัปดาห์หน้า (8-12 ต.ค.)อยู่ในภาวะหาฐานใหม่ โดยมีแนวรับที่คาดหวังการฟื้นตัวที่บริเวณ 1700-1711 จุด

ทั้งนี้การพลิกกลับมาขายสุทธิของนักลงทุนสถาบันในประเทศ และ ต่างชาติ (24 ก.ย.- 4 ต.ค.) ที่ระดับ 1.2 หมื่นล้านบาท และ 8.9 พันล้านบาทตามลำดับ สะท้อนให้เห็นภาพของแรงซื้อที่ยังขาดความต่อเนื่อง และส่งผลให้ SET Index ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราว 16 เท่า อาจต้องเข้าสู่ช่วงปรับฐาน

สำหรับปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานยังคงมีประเด็นเรื่องสงครามการค้าเป็นแรงกดดัน โดยมาให้ความสำคัญกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงหลังที่กำแพงภาษีของสหรัฐฯ-จีน มีผลบังคับใช้มาระยะหนึ่งซึ่งพบว่าตัวเลข PMI ของทั้งสหรัฐ และ จีนปรับตัวลดลงนับจากเดือน เม.ย.2561 เป็นต้นมา

อีกด้านหนึ่งเป็นเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึน้ ซึ่งฝ่ายวิจัยเห็นว่า ด้วยสถานะที่เป็นอยู่อาจไม่เป็นผลดีต่อ SET Index เนื่องจากราคาหุ้น ทั้ง PTTEP และ PTT อยู่ในภาวะที่ Fully Value แต่ในทางตรงข้ามอาจเป็นความเสี่ยงในเรื่องของทิศทางอัตราเงินเฟ้อในประเทศ ซึ่งกระตุ้นให้อัตราดอกเบีย้ ขยับขึ้น

นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ปรับเกณฑ์ในการปล่อยกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัย จากเดิมกำหนด LTV 90 – 95% ของมูลค่าหลักประกัน เป็น 80% (ผู้ซื้อต้องวางเงินดาวน์เพิ่มเป็น 20%) สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 หรือ ที่อยู่อาศัยราคาเกิน 10 ล้านบาท มาตรการดังกล่าวมีเป้าประสงค์เพื่อลดการเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมระยะยาว ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้น ต่อผู้ประกอบการ อสังหาฯ ฝ่ายวิจัยประเมินว่ามีไม่มาก เพราะจากรูปแบบการขายที่อยู่อาศัยปัจจุบัน พบว่าผู้ประกอบการมีการเรียกเก็บเงินดาวน์ในอัตรา 15 – 20% อยู่แล้ว และเฉพาะอย่างยิ่งที่อยู่อาศัยที่ราคาสูงกว่า 10 ล้านบาท ก็มักจะเก็บเงินดาวน์สูงกว่า 20%

ส่วนแนวโน้มการโอนฯ ในงวดในไตรมาส 4/61 เชื่อว่าจะเห็นการเร่งโอนฯ และขายบ้านพร้อมโอนฯ มากขึน้ เนื่องจากเกณฑ์ใหม่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2562 อย่างไรก็ตามประเด็นที่ต้องติดตามในปี 2562 คือ ที่อยู่อาศัยที่ลูกค้าทำสัญญาจะซือ้ -ขาย ไปแล้ว กรณีที่ผ่อนดาวน์ไม่ถึง 20% ในบ้านที่เข้าเกณฑ์ จะมีการแก้ไข หรือช่วยเหลือลูกค้าอย่างไร ตัวเลือกการลงทุนช่วงนี เน้นหุ้นที่ให้ Dividend Yield สูงอย่าง LH, QH และ SC

สัปดาห์นี้เข้าสู่การประกาศงบการเงินในไตรมาส 3/61 เริ่มที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ คาด 10 ธนาคารพาณิชย์ที่ศึกษามีกำไร 5.18 หมื่นล้านบาทลดลง 3% จากไตรมาส 2/61 (แต่เพิ่มขึ้น 9.2% จากไตรมาส 3/60) จากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย และรายได้อื่นลดลง แต่รายได้สินเชื่อยังเติบโตและจะมีน้ำหนักชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 61 ขณะที่หลักเกณฑ์ใหม่กำกับสินเชื่อบ้านที่จะมีผล 1 ม.ค. 62 คาดผลกระทบอาจทำให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยชะลอและภาระเงินกองทุนเพิ่มขึ้น แต่ผลบวกคือทำให้คุณภาพสินทรัพย์แกร่งขึน้ จึงให้น้ำหนักบวกกับคุณภาพสินเชื่อมากกว่าผลลบ ยังชอบ BBL, TCAP

การลงทุนใน EEC ยังเป็นกระแสหลักในการขับเคลื่อนการลงทุนภาครัฐ ล่าสุดบอร์ด EEC อนุมัติงบลงทุน 4 โครงการ มูลค่ารวม 4.7 แสนล้านบาท เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มนิคมฯ ฝ่ายวิจัยแนะนำ AMATA (FV@B35.7) รวมทัง้ WHA (FV@B4.89) เนื่องจากครอบครองที่ดินในพืน้ ที่ EEC มากสุดด้วยต้นทุนที่ต่ำ นอกจากนี้ ระหว่างพัฒนาโครงการต่างๆ ต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอื่นๆ แนะนำ BGRIM (FV@B32) ได้เป็นผู้ดำเนินโครงการระบบไฟฟ้าและน้ำเย็นพื้นที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาระยะแรก และมีโอกาสได้โครงการระยะที่ 2 ซึ่งจะเป็น upside ส่วนเพิ่มในอนาคต

ทั้งนี้ การรายงานตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง หนุนเม็ดเงินเคลื่อนไหวย้ายเข้าสู่ Dollar Asset ส่งผลให้ค่าเงิน US Dollar แข็งค่าขึน้ 0.65% กดดันค่าเงินในภูมิภาคอ่อนค่ากันถ้วนหน้า โดยเฉพาะค่าเงินในกลุ่ม Emerging Market ที่ค่าเงินอินเดียอ่อนค่า 2.33% ค่าเงินอินโดนิเซียอ่อนค่า 1.92% ค่าเงินฟิลิปปินส์อ่อนค่า 0.65% ส่วนค่าเงินบาทอ่อนค่า 1.71% ค่าเงิน Dollar Index สัปดาห์นียั้งคาดว่าจะมีทิศทางแข็งต่อ กดดันค่าเงินบาทที่มีโอกาสอ่อนค่าไปที่ 33.00 บาท/USD จะเป็นปัจจัยกดดันในแง่ Fund Flow ที่ยังมีโอกาสไหลออก

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น มาแรงจนล่าสุด RSI เข้าใกล้เขต Overbought คาดว่าจะทำให้พื้นที่ขึ้นของราคาน้ำมันดิบเป็นไปอย่างจำกัด ทำให้กลุ่มพลังงานขาดปัจจัยบวกหนุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ