(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นสิงคโปร์:ข้อมูลศก.สิงคโปร์ฉุดสเตรทส์ไทม์ปิดลบ 21.08 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 2, 2008 17:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ (2 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันเปิดทำการซื้อขายเป็นวันแรกของปีนี้ หลังจากที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ร่วงลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รวมถึงตัวเลข GDP สิงคโปร์ปี 2550 ที่ขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในประเทศ
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า GDP ของสิงคโปร์ขยายตัว 7.5% ในปี 2550 ต่ำกว่าการคาดการณ์จากผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล ที่ 7.9-8.2%
โดยในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว GDP ขยายตัว 6% ต่ำกว่าระดับในไตรมาส 3 ที่ 9% และน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ที่ 7-8.5%
สำนักงานพัฒนาเมืองใหม่ของสิงคโปร์ (URA) เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นว่า ราคาที่พักอาศัยส่วนบุคคล ลดลงมาอยู่ที่ 6.6% ในช่วงไตรมาสที่ 4 จากระดับ 8.3% ในช่วงไตรมาสที่ 3 อันเป็นผลมาจากจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปรับลดลง 21.08 จุด หรือ 0.6% ปิดที่ 3,461.22 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 3,439.55 และ 3,474.90 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขาย 1.4 พันล้านหุ้น มูลค่า 1.26 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ตัวเลข GDP ที่ลดลงเกินคาดในปีที่แล้วได้ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาด แม้ว่านักวิเคราะห์จะยังมีมุมมองที่เป็นบวกว่า สิงคโปร์จะสามารถจัดการสภาพเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นในปีนี้ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกรายหลักก็ตาม
"ปัจจัยภายในประเทศยังคงสนับสนุนการขยายตัวในระดับที่เหมาะสม" ซอง เซง วุน นักเศรษฐศาสตร์จาก CIMB-GK Research กล่าว
เขาคาดว่า GDP จะขยายตัวที่ 6.5% ซึ่งแตะเพดานสูงสุดของเป้าหมายที่รัฐบาลได้ตั้งไว้ที่ 4.5-6.5% เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากผลผลิตภาคการก่อสร้างและการบริการที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อความต้องการที่พักอาศัยส่วนบุคคลในปีนี้ หลังจากที่ราคาที่พักอาศัยส่วนบุคคลพุ่งสูงขึ้น 31% ในปี 2550
"เศรษฐกิจของสหรัฐที่ชะลอตัวลงอาจส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์" วิลสัน หลิว นักวิเคราะห์จากกิมเอง ซิเคียวริตี้ส์กล่าว
นายหลิวคาดการณ์ว่า ราคาบ้านขนาดกลางจะเพิ่มขึ้นอีก 10-15% ในปีนี้ ขณะที่ราคาบ้านขนาดใหญ่อาจเพิ่มขึ้นอีกไม่ถึง 10%
ในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์นั้น หุ้นแคปิตอลเลนด์ ลดลง 2 เซนต์ หุ้นซิตี้ ดีเวลอปเมนท์ ลดลง 10 เซนต์ และหุ้นเค็พเพล แลนด์ ลดลง 4 เซนต์
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลง โดยหุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ลดลง 6 เซนต์ หุ้นธนาคารยูโอบี ร่วงลง 22 เซนต์ และหุ้นโอซีบีซี ลดลง 3 เซนต์
ขณะที่หุ้นกลุ่มบลูชิปอื่นๆ ลดลง โดยหุ้นสิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ ขยับลง 1 เซนต์ และหุ้นสิงคโปร์ เอ็กซ์เชนจ์ ร่วงลง 18 เซนต์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ