ดัชนีหุ้นไทยภาคเช้าร่วงกว่า 10 จุด ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับลดลง รับปัจจัยภายนอกประเทศกดดัน ขณะที่นักลงทุนยังจับตาอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐ และความคืบหน้าข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนต่อเนื่อง ฉุดให้มีแรงขายนำออกมาในหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีกดดันต่อภาพรวมการลงทุน
เมื่อเวลา 12.01 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,710.35 จุด ลดลง 10.17 จุด (-0.59%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.15 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,707.69 จุด ลดลง 12.83 จุด (-0.75%ป
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบ เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังแข็งค่าอยู่ และ Bond Yield ของสหรัฐ อายุ 10 ปีได้ทำจุดสูงสุดรอบ 7 ปี ทำให้ไปกดดันตลาดเกิดใหม่
นอกจากนี้ยังมีแรงขายทำกำไรหุ้นหลายตัวหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นมามาก ซึ่งหุ้นที่ฟื้นตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็มีพื้นฐานที่ยังไม่แข็งแกร่ง และยังมีความเสี่ยงจากผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังอยู่ ทำให้มีการปรับตัวลงแรงในวันนี้อย่างหุ้น EA และ BEAUTY ที่ขึ้นมามากแล้วรอบที่ผ่านมา ทำให้วันนี้มีแรงขายทำกำไรออกมา
ทั้งนี ตลาดฯระวังความเสี่ยง และรอดูการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/61 ของกลุ่มแบงก์ ซึ่งกำลังจะประกาศออกมา
พร้อมให้แนวรับ 1,708-1,700 จุด ส่วนแนวต้าน 1,720 จุด