(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 220.86 จุดหลังราคาน้ำมันพุ่งแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 3, 2008 06:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านการผลิตที่อ่อนแอเกินคาด และหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลงอีก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 220.86 จุด หรือ 1.67% แตะระดับ 13,043.96 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดรูดลง 21.20 จุด หรือ 1.44% แตะระดับ 1,447.16 จุด และ ดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 42.65 จุด หรือ 1.61% แตะที่ระดับ 2,609.63 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.23 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ไอเอสเอ็ม) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตประจำเดือนธ.ค.ร่วงลงสู่ระดับ 47.7% จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 50.8% ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลงรวดเร็วกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น เนื่องจากดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 จุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลง และดัชนีที่เหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังขยายตัวขึ้น
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างตื่นตระหนกเมื่อราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระหว่างวัน ก่อนที่จะถอยลงมาปิดที่ระดับ 99.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อันเป็นผลมาความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในไนจีเรียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดในทวีปแอฟริกา อีกทั้งความกังวลเรื่องการผลิตที่ชะงักงันลงในเม็กซิโกซึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และการคาดการณ์ที่ว่าน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐจะลดลงอีก
นายอลัน เลเวนสัน นักวิเคราะห์จากบริษัทที โรว์ ไพรซ์ แอสโซซิเอทส์ กล่าวว่า "ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอและราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงทำให้นักลงทุนกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะ "Stagflation" (ภาวะที่เศรษฐกิจถดถอยแต่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น) โดยเฉพาะข้อมูลด้านการผลิตถือเป็นปัจจัยบ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนมาก"
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภท 10 ปีพุ่งขึ้นหลังจากสถาบันไอเอสเอ็มรายงานข้อมูลด้านการผลิตที่อ่อนแอ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนตัวผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 28 ปี
"ความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขการผลิตเหมือนเป็นการซ้ำเติมตลาดวอลล์สตรีทที่บอบช้ำอยู่แล้วจากความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับภาวะตกต่ำในตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่นักลงทุนส่วนใหญ่จะจับตาดูข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้" นายเลเวนสันกล่าว
ทั้งนี้ หุ้นเนชันแนล ซิตี้ คอร์ป ดิ่งลง 5.3% หลังจากบริษัทประกาศลดเงินปันผลและปิดธุรกิจปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้ากลุ่มค้าส่ง อีกทั้งประกาศลดพนักงานอีก 900 อัตรา
ส่วนหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพคอมพิวเตอร์ดิ่งลงหลังจากแบงค์ ออฟ อเมริกา แสดงความคิดเห็นในด้านลบต่อธุรกิจดังกล่าว โดยหุ้นอินเทลร่วงลง 4.9% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวเซส ดิ่งลง 4.8%
หุ้นอเมซอนทะยานขึ้น 3.9% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้ อินเวสท์เมนท์ รีเสิร์ช ประกาศเพิ่มอันดับความน่าลงทุนแก่หุ้นดังกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ