ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 40.2 จุดหลังดาวโจนส์ร่วงรุนแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 3, 2008 07:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลง 40 จุดเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงกว่า 200 จุดหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านการผลิตที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม การที่หุ้นธนาคารอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีเซสเตอร์ ซึ่งเป็นธนาคารด้านการจำนอง พุ่งขึ้นแข็งแกร่งกว่า 16% ได้ช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายให้คึกคักขึ้น
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 40.2 จุด หรือ 0.62% แตะระดับ 6,416.7 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,402.6-6,512.3 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 1.36 พันล้านหุ้น
สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ไอเอสเอ็ม) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตประจำเดือนธ.ค.ร่วงลงสู่ระดับ 47.7% จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 50.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีพ.ศ.2546 ทั้งนี้ ดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 จุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลง และดัชนีที่เหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังขยายตัวขึ้น
นายเยเรมี แบทสโตน-คารร์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัทชาร์ลส์ สแตนลีย์กล่าวว่า "ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นลอนดอนและนิวยอร์ก การที่ดัชนีดังกล่าวร่วงลงแตะระดับ 47.7 จุดถือเป็นสถานการณ์ที่เข้าขั้นอันตราย เพราะบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐหมิ่นเหม่ที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย"
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายคึกคักขึ้นเมื่อนักลงทุนบางกลุ่มส่งแรงซื้อเข้าหนุนหุ้นอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีเซสเตอร์ จนพุ่งขึ้น 16.4% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทบังโค แซนแทนเดอร์ของสเปน อาจขอเจรจาซื้อกิจการอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีเซสเตอร์ หลังจากที่รุกซื้อกิจการบริษัทแอ๊บบีย์ไปแล้วในปีพ.ศ.2547
แต่หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารกลับร่วงลง โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 1.35% หุ้นธนาคาร HSBC ร่วงลง 0.8% ขณะที่หุ้น HBOS และหุ้นธนาคารลอยด์ส ทีเอสบี ปิดร่วงลง 0.6%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ไม่สามารถรั้งแรงบวกในช่วงเช้าเอาไว้ได้ โดยปิดลดลงตามราคาโลหะทองแดง หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่อ่อนแอ โดยหุ้นรีโอ ทินโต ดิ่งลง 62 เพนซ์ ปิดที่ 5.25 เพนซ์ หุ้นอันโตฟากัสต้าปิดลดลง 5 เพนซ์ แตะระดับ 712 เพนซ์ แต่หุ้นเวแดนตา รีซอสเซส ดีดขึ้น 31 เพนซ์ ปิดที่ 2,077 เพนซ์
ส่วนหุ้นกลุ่มบริษัทน้ำมันทะยานขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ตลาดลอนดอนทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 96.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์รุนแรงในไนจีเรีย โดยหุ้นบีพีทะยานึ้น 1.5 เพนซ์ ปิดที่ 616.5 เพนซ์ หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดีดขึ้น 7 เพนซ์ ปิดที่ 2,097 เพนซ์ แต่แรงขายทำกำไรได้ฉุดหุ้นเครน เอนเนอร์จี ร่วงลง 4%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ