MAJOR เปิดตัวโรงภาพยนตร์ Esports แห่งแรกรองรับการแข่งขัน หวังดันรายได้ Non-movie เพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 9, 2018 17:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) กล่าวว่า บริษัทได้เปิดโรงภาพยนตร์ Esports แห่งแรกในโลก ณ โรงภาพยนตร์ที่ 4 เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดา ภายใต้ชื่อ "Dell Gaming Esports Cinema" ซึ่งได้รับความร่วมมือจากบริษัทด้านเทคโนโลยีไอทีและคอมพิวเตอร์ชั้นนำ ได้แก่ อินเทล, นีโอ ลูชั่น และทรูออนไลน์ ที่เข้ามาร่วมมือและให้บริการแก่ลูกค้าที่สนใจใช้บริการโรงภาพยนตร์ Esports แบบครบวงจร โดยมีอัตราค่าบริการราคาเหมาทั้งวัน 200,000 บาท และราคาเหมาครึ่งวัน 100,000 บาท แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลาให้เลือก คือ ช่วงเวลา 10.00-15.00 น. และช่วงเวลา 17.00–22.00 น. ซึ่งราคาดังกล่าวรวมอุปกรณ์ทุกอย่างและอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว

บริษัทได้มองเห็นถึงโอกาสของกระแสของ Esports ที่มีการเติบโตมาต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าตลาดในประเทศไทยมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท และเติบโตกว่า 12% อีกทั้งภาครัฐยังมีการสนับสนุนโดยได้บรรจุ Esports เป็นกีฬาอย่างเป็นทางการ และจะเป็นกีฬาที่ถูกบรรจุในการแข่งขันระดับโลก เช่น เอเชียนเกมส์ และโอลิมปิก ซึ่งการเปิดโรงภาพยนตร์ Dell Gaming Esports Cinema จะเป็นการดึงดูดลูกค้าที่ต้องการจัดงานแข่งขัน Esports เข้ามาได้ และทำให้โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์สามารถใช้ประโยชน์ได้เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างรายได้ในกลุ่มที่เป็น Non-movie เข้ามาเสริม โดยที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ของโรงภาพยนตร์ดังกล่าวในปี 62 อยู่ที่ 120 ล้านบาท

"การที่บริษัทเลือกโรงภาพยนตร์เอสพลานาด รัชดา มาเป็นโรง Esports แห่งแรกในโลก เพราะเอสพลานาด รัชดา อยู่ติดรถไฟฟ้า MRT และเป็นกลุ่มที่มีลูกค้าเป้าหมายของเราที่มีความต้องการใช้สถานที่จัดการแข่งขัน Esports เพราะมีออฟฟิศบริษัทไอทีชั้นนำตั้งอยู่ในบริเวณนี้ และมีกลุ่มนักศึกษาที่เล่น Esports อยู่มาก และโรงภาพยนตร์นี้ก็สามารถใช้จัดงาน Esports ได้ และฉายภาพยนตร์ตามปกติได้ สิ่งที่เราต้องการตอบโจทย์กับลูกค้าที่ไช้สถานที่ของเมเจอร์ในการจัดงาน Esports เป็นเรื่องการให้บริการที่ครบวงจร เพราะปกติลูกค้าที่ใช้สถานที่ของเมเจอร์ที่โรงภาพยนตร์สยามพาวาลัยจะต้องเสียค่าเช่าสถานที่ 500,000 บาท/วัน ไม่รวมค่าออร์แกไนซ์ และเครื่องมือต่าง ๆ แต่โรง Esports นี้เราบริการให้ลูกค้าทั้งหมด ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่มอบให้แก่ลูกค้า และสถานที่ก็มีความสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า"นายนรุตม์ กล่าว

สำหรับการขยายโรงภาพยนตร์ Esport ในเครือเมเจอร์ในอนาคต หากได้รับการตอบรับที่ดีในช่วง 3 เดือนนี้ จะมองหาโรงภาพยนตร์อื่น ๆ เพื่อทำเป็นโรงที่ใช้จัดงาน Esports ได้ ซึ่งจะต้องเป็นโรงภาพยนตร์ที่อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า และมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่ในบริเวณนั้น เช่น พารากอนซีนีเพล็กซ์, ควอเทียร์ ซีนีอาร์ต และเมเจอร์ เอกมัย เป็นต้น โดยส่วนหนึ่งของการเพิ่มบริการโรงภาพยนตร์ Esports เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มสัดส่วนรายได้ Non-movie ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าการเปิดโรงภาพยนตร์ Esports จะทำให้สัดส่วนรายได้ของ Non-movie เพิ่มเป็น 2% ของรายได้รวม จากปัจจุบันที่ 1% ของรายได้รวม พร้อมกับบริษัทยังคงเน้นกิจกรรมอื่น ๆ ที่ลูกค้าเข้ามาใช้ในโรงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดแสดงคอนเสิร์ต การสตรีมมิ่งสดการแสดงคอนเสิร์ต การจัดโชว์บัลเลต์ และการจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ โดยที่บริษัททำมาแล้ว 3-4 ปี ซึ่งมีจำนวนอีเว้นท์ที่จัดในโรงภาพยนตร์ของเมเจอร์ราว 30 งาน/ปี

อย่างไรก็ตาม รายได้หลักของบริษัทจากบริษัทยังคงมาจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการฉายภาพยนตร์ (Movie) ที่มีสัดส่วน 99% ของรายได้รวม คาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 4/61 เพราะเป็นช่วงที่มีภาพยนตร์ฮอลลีวูดระดับบล็อกบัสเตอร์เข้าฉายในช่วงปลายปีนี้ที่จะเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินได้มาก เช่น Venom, Fantastic Beast 2, Aquaman, Bumblebee เป็นต้น และภาพยนตร์ไทยที่เป็นภาพยนตร์ที่ผู้ชมให้ความสนใจ เช่น นาคี และ Homestay รวมไปถึงไบค์แมน ศักรินทร์ ตูดหมึก ที่เข้าฉายในช่วงปลายเดือน ก.ย.และต่อเนื่องมาในเดือน ต.ค.สามารถทำรายได้ที่ดีมากกว่าคาด ทำให้ทิศทางในไตรมาส 4/61 ของธุรกิจภาพยนตร์ยังดีต่อจากช่วงซัมเมอร์ ซึ่งยังคงมั่นใจรายได้ปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายเติบโต 10% มากกว่าปีก่อนที่เติบโตน้อยกว่า 10%

ส่วนแผนการขยายจำนวนโรงภาพยนตร์ในปีนี้จะสามารถขยายโรงภาพยนตร์ได้ตามเป้าหมาย 100 โรง โดยที่ปีนี้ได้ขยายโรงภาพยนตร์ไปในต่างจังหวัดเป็นจำนวนมากในเทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี และขยายในกัมพูชาและลาว ส่วนในกรุงเทพฯปลายปีนี้จะเปิด 2 สาขา ได้แก่ ไอคอนสยาม และเกตเวย์ บางซื่อ โดยที่ในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ เครือเมเจอร์จะมีสาขาทั้งสิ้น 151 สาขา จำนวน 747 โรง แบ่งเป็นสาขาในประเทศ 145 สาขา จำนวน 714 โรง และสาขาต่างประเทศ 6 สาขา 33 โรง

ส่วนในปี 62 วางแผนจะขยายเพิ่มอีก 100 โรง ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกับการเน้นพัฒนาด้านนวัตกรรมมากขึ้น ซึ่งจะเห็นรูปแบบการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าเพิ่มเติมในปี 62 ประกอบกับการทำการตลาดกลุ่มลูกค้า Loyalty ที่จะมีหลากหลายกิจกรรมที่จะมอบเป็นสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าในปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ