(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ฟื้นตัวขึ้นเช่นเดียวกับตลาดภูมิภาค หลังเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า-บอนด์ยีลด์ชะลอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 10, 2018 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างรีบาวด์ขึ้น หลังจากที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มกลับมาอ่อนค่าลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐฯชะลอตัวลง

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีแรงซื้อคืนในลักษณะ Short Covering และกองทุนน่าจะช่วยประคองตลาดฯได้หลังจากที่เมื่อวานนี้กองทุนได้กลับมาซื้อ ซึ่งตลาดฯน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้เหนือระดับ 1,700 จุดได้ นอกจากนี้ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/61 ซึ่งเริ่มที่กลุ่มแบงก์ในช่วงปลายสัปดาห์นี้

พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,690 จุด ส่วนแนวต้าน 1,710 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (9 ต.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,430.57 จุด ลดลง 56.21 จุด (-0.21%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,880.34 จุด ลดลง 4.09 จุด (-0.14%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,738.02 จุด เพิ่มขึ้น 2.07 จุด (+0.03%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 69.53 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.71 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 108.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.20 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 7.57 จุด

ส่วนตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการเนื่องในวันชาติ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 ต.ค.61) อยู่ที่ 1,696.92 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด (+0.04%)
  • นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 4,617.43 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ต.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (9 ต.ค.61) ปิดที่ 74.96 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 0.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 ต.ค.61) ที่ 5.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.88 แข็งค่าจากวานนี้ตามภูมิภาคหลังนลท.ขายดอลล์ทำกำไร มองกรอบวันนี้ 32.80-33.00
  • ไอเอ็มเอฟขยับจีดีพีไทย ปีนี้ทะยานแตะ 4.6% สวนทาง "อินโด-ฟิลิปปินส์-มาเลเซีย"ที่ถูกหั่นลงถ้วนหน้า คลังชี้เป็นเครื่องสะท้อนเศรษฐกิจไทย ต่อเนื่อง "สมคิด"ปรับแผนบริหารจีดีพี ลดพึ่งพาส่งออก-หันมากระตุ้นภายใน หลังประเมินสงครามการค้าลากยาว 3 ปี ฉุดเศรษฐกิจจีน กระทบส่งออกไทย สรท.ชี้กลุ่ม"ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์-ยานยนต์-ยางพารา"ส่งออกไปจีนทรุด
  • "สมคิด"รับมือน้ำมันขาขึ้น เตรียมหารือผู้บริหาร ปตท. 11 ต.ค.รับมือหวั่นต้นทุนสินค้าเพิ่ม พร้อมคุยแผนลงทุนไบโออีโคโนมี่ กบง.สั่งหามาตรการดูแลราคาดีเซลเพิ่มหลังอุดหนุนเต็มเพดาน ด้าน ส.อ.ท.กังวลค่าเอฟทีพุ่งกดดันต้นทุนการผลิต
  • คลังชงกฎหมาย 2 ฉบับ เข้าครม.วันนี้ ตั้งกรรมการชุดใหม่กำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินที่ยังไม่มีภาครัฐดูแล ขึ้นทะเบียนสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เช่าซื้อ เช่าซื้อแบบลีสซิ่งและแฟคตอริ่งนอกระบบ รวมทั้งพิโกไฟแนนซ์ ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ รวมทั้งเสนอ พ.ร.ฎ.ยกเว้นค่าอากรแสตมป์ให้ผู้ถือบัตรคนจนที่ซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และห้องชุดขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี
  • กพท. จ่อเปิดทางกองทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย-กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ถือหุ้นในสายการบิน หวังลดความเสี่ยงฐานะทางการเงินของสายการบินได้ สั่งลุยทำรัฐธรรมนูญความปลอดภัยการบินระดับชาติ เคาะ พ.ย.นี้
  • ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. เปิดราคาคอนโดมิเนียมไตรมาส 3/2561 พุ่ง 11% อานิสงส์โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าหนุน ด้าน "ไซมิส แอสเสท" จ่อผุด 2 โครงการบ้าน กดปุ่มก่อสร้างปี 2562
  • บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด มองว่าแนวนโยบาย MacroPrudential สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่เสนอโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ต้องการปรับปรุงมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและลดพฤติกรรมการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะส่งผลดีต่อผู้ซื้อบ้าน รวมไปถึงผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และธนาคารในระยะยาว แต่อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในระยะสั้น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SST-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.ทรัพย์ศรีไทย (SST)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน30,386,062 หน่วย อายุ 3 ปี ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิหุ้นละ 10 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 28 ธ.ค.61 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 30 ก.ย.64
  • TOP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 88 บาท แนวโน้มกำไร Q3/61 จะชะลอทั้ง Q-Q และ Y-Y เพราะฐานสูงซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้หมดแล้ว แต่น่าจะออกมาดีกว่าที่คาดกันตอนแรก เพราะ Stock gain มากกว่าคาด ค่าการกลั่นฟื้นเร็ว และ Spread สายอะโรเมติกส์กว้างขึ้น ทั้งนี้ กลุ่มพลังงานกลับมา Outperform ตลาด แต่ TOP ยัง laggard อยู่ราว 3% ขณะที่ NVDR เริ่มกลับมาซื้อในสัปดาห์ก่อน และ PBV ปี 2561-62 ยังต่ำ 1.1-1.2 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลังที่ 1.5 เท่า
  • CPALL (กสิกรไทย) "ซื้อ"เป้า 80.5 บาท คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/2561 จะอ่อนตัวลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ ขณะที่คาดอัตราเติบโตเฉลี่ยของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 3/2561 จะยังอยู่ในแนวบวกที่ 3.0% (เทียบกับที่ 3.5% ในไตรมาส 2/2561) กำไรสุทธิช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 คิดเป็น 73.9% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 ที่ 1.90 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 14.2% YoY) ทั้งนี้ บริษัทฯจะประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2561 ในวันที่ 13 พ.ย.2561
  • BGRIM (เคทีบีฯ) "ซื้อ"เป้า 36.50 บาท ให้น้ำหนักต่อหุ้นที่มีกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ และมี growth ที่ดี โดยหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า เป็นกลุ่มที่น่าสนใจ อีกทั้งรายได้-กำไร ของ BGRIM ไม่ได้อิงกับปัจจัยที่ถ่วงตลาดอยู่ในเวลานี้มากนัก พร้อมประมาณการปี 2561 ของ BGRIM ว่าจะมีกำไรปกติที่ 2.5 พันล้านบาท (+81% YoY) ทั้งนี้ประมาณการ H1/61 คิดเป็น 47% ของประมาณการทั้งปี โดย BGRIM ยังเหลือกำลังการผลิตตามสัดส่วนอีกราว 105MW ทยอย COD ในช่วง Q4/61

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ